เรียกว่า “เสียกระบวน” กันไปทั้งกระดาน หลังจากที่ “เกมรุก” ที่เปิดฉากมา ไม่มีอะไรเป็นไปดังหวัง มิหนำซ้ำยังทำท่าว่า “แม่ทัพ”อย่าง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” แกนนำคณะก้าวหน้า จะพากัน “ตายหมู่” เพราะปากเป็นพิษ จากการไลฟ์สดโจมตีการจัดหาวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด โดยพาดพิงไปถึง “สถาบันพระมหากษัตริย์” ด้วยความจงใจ
นอกจากนี้ ไพร่พล ระดับ “ทหารหน้าค่าย” เมื่อบรรดากลุ่มการ์ดราษฎร ที่ออกมาเคลื่อนไหว โดยไม่สนใจว่าจะอยู่ในห้วงของการเว้นวรรความวุ่นวายทางการเมืองเพื่อเปิดทางให้ “ระบบการแพทย์”ได้ทำงาน ทำหน้าที่ต่อสู้กับไวรัสโควิด ที่กลับมาระบาดรอบใหม่
ทั้งการสร้างสถานการณ์ใช้ความรุนแรง มีมือดี ปาระเบิดปิงปองเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งสื่อมวลชนที่เกาะติดรายงานข่าวการชุมนุมเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 ที่บริเวณสามย่าน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตามมาด้วยการสร้างสถานการณ์ว่า หนึ่งในกลุ่มการ์ดราษฎร “ถูกอุ้ม” จนทำให้ส.ส.ในพรรคก้าวไกล ไปจนถึงแกนนคณะราษฎร ดาหน้าออกมาโจมตีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกันเป็นทิวแถว ก่อนที่จะพบว่าทุกถูก “ต้มจนเปื่อย” เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำภาพจากกล้องวงจรปิดออกมาเปิดเผยว่า “เยล” มงคล สันติเมธากุล อ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) อุ้มไปจากที่พักย่านสมุทรปราการ นั้นกลายเป็นเรื่องโอละพ้อ เพราะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งความกลับ ข้อหาแจ้งความเท็จ
ล่าสุดมี รายงานข่าวจากกองทัพบกแจ้งว่า มงคลเป็นทหารกองประจำการผลัด 1/61 สังกัดศูนย์การทหารราบ และหนีราชการไปเมื่อเดือน ธ.ค. 2562 ทางต้นสังกัดได้จำหน่ายว่าหนีราชการเมื่อเดือน ม.ค. 2563 และได้ไปแจ้งสัสดีอำเภอในภูมิลำเนา หลังจากนั้นสัสดีได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากพบตัวจะต้องส่งให้หน่วยต้นสังกัด เพื่อนำตัวส่งศาลทหาร โดยโทษหนีทหารเป็นคดีอาญาอายุความไม่เกิน 10 ปี
กลับมาที่ปัญหาจากการ จงใจล้ำเส้น ก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างจงใจของ ธนาธร ผ่านการวิพากษ์วิจารณ์โจมตีการจัดหาวัคซีนโควิด ของรัฐบาล แต่กลับไปพาดพิงสถาบัน จนทำให้หลายฝ่ายไม่อาจอดรนทนต่อไปได้
ในที่สุด ไม่เพียงแต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เท่านั้นที่ประกาศจะใช้กฎหมายดำเนินคดีกับธนาธร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาล และเพื่อปกป้องสถาบัน ล่าสุดกระทรวงดิจิตอลฯ ได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีอาญากับ ธนาธร ในฐานความผิดมาตรา 112
ยังไม่นับรวมเสียงต่อต้าน ด้วยความคับแค้นใจที่พุ่งเข้าใส่ธนาธร ไปจนถึง “แนวร่วม”ทุกองคาพยพ ไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า และม็อบคณะราษฎร ที่บัดนี้ได้เคลื่อนไหว โจมตีสถาบัน อย่างสุดลิ่ม
แม้งานนี้ “ฝ่ายต่อต้านสถาบัน”จะประเมินแล้วว่า เป้าหมายของพวกเขานั้นเดินมาไกล จนสุดจะกู่ เพราะสามารถจาบจ้วง โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้อย่างเปิดเผย ดูหมิ่นพระเกียรติ ผ่านโลกโซเชี่ยลได้อย่างสนุกปาก แม้จะต้องแลกกับการส่ง “ใคร” ก็ตามเพื่อเผชิญหน้ากับความผิดในมาตรา112 ก็ถือว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ทั้งที่ลึกๆแล้ว สิ่งที่รออยู่เบื้องหน้า อาจพากันตายหมู่ก็ตาม !