ยังตอบไม่ได้ว่า ใครจะเป็นฝ่าย “ซักฟอก” ใคร ระหว่าง “รัฐบาล”กับ “ฝ่ายค้าน” เพราะดูเหมือนว่า เวลานี้ยังไม่ทันที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะเข้าสภาผู้แทนราษฎร เพื่อยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลก่อนปิดสมัยประชุม ก็พลันเกิด “ปัญหา” เกิดศึกใน ทั้งภายในพรรคเพื่อไทยด้วยกันเอง และยังต้องลุ้นกันต่อไปว่า เมื่อถึงวัน “กางโผ” รายชื่อ ผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แล้วจะไม่เกิดอาการ “งัดข้อ” กันขึ้นมารอบใหม่ ระหว่าง พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลอีก ! “ ไม่รู้ ผมไม่รู้ เป็นเรื่องของฝ่ายค้าน ผมจะมีอะไร ผมได้คุมอะไรที่ไหน” คำตอบจาก “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ “ผู้จัดการรัฐบาล” ที่บอกกับผู้สื่อข่าว ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อถูกถามกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่วางใจที่คาดว่าจะไม่มีชื่อของพล.อ.ประวิตร ความจริงแล้วการที่ไม่มีชื่อพล.อ.ประวิตร ติดโผรัฐมนตรีที่จะถูกจับขึ้นเขียงเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ นั้นก็ดูว่าจะไม่ใช่เรื่องแปลก ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้น แต่ประเด็นที่น่าสนใจ คือเหตุผลที่ว่าทำไม ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงไม่มีชื่อบิ๊กป้อม ต่างหาก เพราะนี่กำลังสะท้อนให้เห็นว่า แท้จริงแล้ว “ปัญหาใหญ่” ภายในพรรคเพื่อไทยคืออะไร เช่นเดียวกับปัญหาใหญ่ระหว่าง “พรรคร่วมรัฐบาล” อย่าง พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล นั้นอยู่ในภาวะ “หวาดระแวง” กันเองอยู่ตลอดเวลาใช่หรือไม่ ? ภายในพรรคเพื่อไทย กำลังสถานการณ์ที่เรียกว่า “ศึกซ้อนศึก” เมื่อมีรายงานว่า “โจ้” ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พยายามที่จะ “ชิงการนำ” ด้วยการทำหน้าที่เป็น “แม่ทัพ” คุมทีมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และสกัด ส.ส.ในสภาฯที่สังกัดทีมคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ,ทีมของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ไปจนถึง “สุทิน คลังแสง” ส.ส.มหาสารคาม คนในพรรคเดียวกันเอง ด้วยหนึ่ง กลัวว่า ข้อมูลจะรั่วไหลไปถึงฝั่ง รัฐบาล และสอง ยังว่ากันว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ มีหลายคนที่หวังจะใช้โอกาสนี้ ทำงานให้ “เข้าตา” เจ้าของพรรคที่ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ให้ได้มากที่สุด และหนึ่งในนั้นก็มี ยุทธพงศ์ รวมอยู่ด้วย ! ขณะที่พรรคฝ่ายค้านเองกำลังวุ่นวาย แย่งชิงการนำกันให้อลหม่านอยู่นั้น กลับน่าสนใจว่า ฟากฝั่งรัฐบาลเอง หากเป็นก่อนหน้านี้ จะต้องมีการ “เก็งข้อสอบ” เช็คข่าวให้ได้ว่า “รัฐมนตรี” คนใด มีชื่อถูกอภิปรายบ้าง ทว่าเมื่อในห้วงหลายเดือนที่ผ่านมา กลับพบว่า ฝ่ายรัฐบาลที่นำโดย “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เองแทบไม่มีความกังวล ใดๆ โดยเฉพาะหากฝ่ายค้าน ตั้งเป้าถล่มเรื่องการบริหารจัดการ การรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามที่ประกาศกร้าวกันเอาไว้แล้ว ก็อาจจะกลายเป็นการ “เข้าทาง” ให้พล.อ.ประยุทธ์ และ “อนุทิน ชาญวีรกูล”รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ใช้เวทีสภาฯ ทำแต้มให้กับตัวเองแทน ทำไปทำมา จะกลายเป็นว่าศึกซักฟอกรอบนี้ รัฐบาลอาจได้โอกาส “ฟอกขาว” ตัวเอง กวาดแต้มกลับไปแทน !