หากจับอาการ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเจ้าของรหัส “สนามไชย1” ในช่วงเวลานี้มีความชัดเจน ประการหนึ่งว่า พยายามที่จะ จำแนก แยกประเด็น “การเมือง” ออกจาก “การรับมือ” กับ “ไวรัสโควิด” ที่กำลังแพร่ระบาดรอบใหม่ ประเด็นไหนที่เป็นเรื่องราว เกี่ยวพัน โยงใยกับความขัดแย้งทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ เองก็แทบจะไม่แสดงความเห็นใดๆ หรือมีปฏิกริยา อย่างใดอย่างหนึ่ง เหมือนที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ ! จะมีก็แต่ “แรมโบ้อีสาน”สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และ “ธนกร วังบุญคงชนะ” เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่จับมือกันออกมาทำหน้าที่ เป็น “ด่านหน้า” ตอบโต้ ฝ่ายค้าน ที่พากันออกมาโจมตีพล.อ.ประยุทธ์ ทั้งในเรื่องการเมือง ไปจนถึงการแก้ไขปัญหาไวรัสโควิด จนมีเสียงสนับสนุนผ่านโลกโซเชียล ว่า ทั้งแรมโบ้อีสานและธนกร นั้นน่าจะเหมาะสมกับ “ทีมโฆษกรัฐบาล” เพราะตอบโต้ สวนหมัดได้ชนิด ทันควันโดยไม่ต้องรอสัญญาณ อาการหงุดหงิดหัวใจ และไม่พอใจรัฐบาล อย่างแรง จาก “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย ที่จะให้งดเว้นการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ออกไปเพื่อเลี่ยงโควิดระบาดในพื้นที่รัฐสภา เกียกกายนั้น ก็ดูจะไม่แตกต่างไปจากท่าทีของ แกนนำพรรคฝ่ายค้านอีกหลายคน นอกจากนี้ ยังต้องไม่ลืมว่า นอกจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ คัดค้าน การเลื่อนประชุมสภาฯ จากฝ่ายค้านแล้ว ยังมี “กองหนุน” ที่ประจำการอยู่นอกสภาฯ อย่าง “ม็อบราษฎร” ที่บัดนี้มีเพียง “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ หัวหน้ากลุ่มการ์ดวีโว่ ที่พาสมัครพรรคพวกมาขายกุ้ง โดยอ้างว่าเพื่อช่วยเหลือพ่อค้า แม่ค้าที่สมุทรสาคร เพราะไม่สามารถขายกุ้งได้เมื่อเกิดการแพร่ระบาด ณ คลัสเตอร์ใหม่ที่ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว เนื่องจาก จากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีคำสั่งห้ามชุมนุม มั่วสุม หรือทำกิจกรรมแออัดเสี่ยงแพร่เชื้อโรคโควิด-19 โดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แน่นอนว่าในสถานการณ์เช่นนี้ รัฐบาล และพล.อ.ประยุทธ์ เองต้องการสมาธิ เพื่อการตัดสินใจบริหารจัดการประเทศไทย ในภาวะที่เผชิญหน้ากับวิกฤติไวรัสโควิด -19 ที่ไม่เพียงแต่จะเข้าโจมตีสุขภาพร่างกายของประชาชนเท่านั้น หากแต่ยังส่งผลกระทบลุกลามไปถึง ภาวะเศรษฐกิจ และสังคม วิถีชีวิตผู้คนล้วนแล้วต้องปรับเปลี่ยนเพื่อความอยู่รอด ตลอดหลายวันที่ผ่านมา จึงไม่น่าแปลกใจที่พล.อ.ประยุทธ์ เองจึงพยายามกันตัวเอง ออกจากพื้นที่ความวุ่นวายทางการเมือง แล้วหันไปทุ่มเท กับการแก้ไขปัญหาโควิด -19 อย่างเข้มข้น ยิ่งในจังหวะนี้การออกมาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด อย่างเข้มข้นนั้น มีการประสานกับทั้งรัฐบาล ที่มีศูนย์บัญชาการใหญ่อยู่ที่ศบค. ขณะเดียวกัน การบริหารจัดการในระดับจังหวัดที่มี “ผู้ว่าราชการจังหวัด” ทั้ง 77 จังหวัดมีอำนาจเต็มในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในพื้นที่ พร้อมกันนี้ ยังต้องหารือร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันในแต่ละจังหวัดอย่างเข้มงวด เวลานี้แม้ ฝ่ายค้าน และ การเมืองภาคประชาชน จะขัดใจเพราะถูก “กระชับพื้นที่” แต่ดูจะไม่มีประโยชน์ใดๆ เพราะพื้นที่ทางการเมือง กำลังถูกปิดลง อย่างที่เห็น !