เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน จะสิ้นปีหนู แล้วก้าวสู่ปีใหม่ 2564 แต่ดูเหมือนว่าบรรยากาศและความเข้มข้นทางการเมือง จะลากยาวชนิดข้ามปีแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเกม ทั้งในสภาผู้แทนราษฎร และการเคลื่อนไหวของ “ม็อบราษฎร” บนท้องถนนตามที่แกนนำม็อบได้ส่งสัญญาณแล้วว่า ในปีหน้า 2564 จะยกระดับการชุมนุมให้เข้มข้นมากขึ้น ! ตลอดปี 2563 ปีหนูไฟ ต้องถือว่าเป็นปีที่มีการเคลื่อนไหว เกิดการชุมนุมทางการเมืองเกือบตลอดทั้งปี เพียงแต่บางช่วงบางตอนอาจจะมีการเว้นวรรค ทิ้งช่วงกันบ้าง เนื่องจากผู้คนทั่วโลกและทั้งประเทศ เผชิญหน้ากับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องรับหน้าที่ “นำทัพ” สู้กับโควิด โดยใช้ “ระบบสาธารณสุข”นำหน้า เบรคความวุ่นวายทางการเมือง จนทำให้ประเทศไทย สามารถฟันฝ่าวิกฤติโควิด -19 ที่ระบาดระลอกแรกได้อย่างน่าพึงพอใจ อีกทั้ง ยังได้รับความชื่นชมจากนานาประเทศ และองค์กรระดับโลก อย่าง WHO จากความสำเร็จและชัยชนะจากศึกโควิด -19 ที่ระบาดในรอบแรก ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นฝ่ายถือแต้มต่อ แม้หลายต่อหลายครั้งจะโดน “ฝ่ายค้าน” รวมพลังกับ “ผู้ชุมนุม” ในนามกลุ่มราษฎร โจมตี จนถึงขั้นชุมนุมเพื่อเสนอข้อเรียกร้องบีบให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ แต่ก็ยังไม่เป็นผลใดๆ ต่อมาการชุมนุมที่นำหน้าโดย กลุ่มราษฎร ที่ยึดเอา “ฮ่องกงโมเดล” เพื่อขับเคลื่อนโดยการใช้แกนนำที่เป็นนักศึกษา และเยาวชน ออกมายืนอยู่แถวหน้า ด้วยหวังว่าจะได้เห็นพล.อ.ประยุทธ์และกองทัพ ที่มี “บิ๊กแดง”พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ นั่งดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. อดทนอดกลั้น ต่อการใช้ความหยาบคาย จาบจ้วง ดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่แล้ว กลับไม่เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร หรือการใช้ความรุนแรงโดยกำลังทหาร ตามที่ต้องการแต่อย่างใด ! คอการเมืองหลายคนถึงกับตั้งข้อสังเกต และพากันสงสัยว่าเหตุใด พล.อ.ประยุทธ์ จึงมีความอดทนอดกลั้นต่อท่าทีของผู้ชุมนุมที่ยกระดับประเด็นข้อเรียกร้อง พุ่งเป้าไปยังการจาบจ้วงล่วงเกินสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งหลายคนอาจหลงลืมไปแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ นั้นเคยผ่านเหตุการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองมาแล้วตั้งแต่ยังเป็นบิ๊กทหาร อยู่ในตำแหน่งหลักในกองทัพ เท่ากับว่า พล.อ.ประยุทธ์ เคยผ่านประสบการณ์ทางการเมือง เรียนรู้การเมืองมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่จะพบว่า ความอดทนของพล.อ.ประยุทธ์ ไปจนถึง “พี่ใหญ่” คือ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เองจะไม่สามารถ “รับมือ”กับการเมืองนอกสภาฯที่เคลื่อนไหวบนท้องถนน การเมืองปีหนูไฟ 2563 ที่กำลังจะปิดฉากลงไปอีกไม่กี่วันข้างหน้า จึงลาลงไปด้วยความอารมณ์ตกค้าง ของ ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล เพราะภารกิจยังไม่สำเร็จ เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ นอกจากจะไม่ยอมลาออก แม้จะม็อบจะพากันบุกไปกดดันถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล ด้วยความฮึกเหิม สองครั้งสองคราว อีกทั้งข้อเรียกร้องให้ มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ยังกลายเป็นหนทางที่ยาวไกล มิหนำซ้ำ “แกนนำม็อบสามนิ้ว” ยังทยอยเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามความผิด ม.112 อย่างต่อเนื่อง โอกาสและชัยชนะทางการเมือง จะตกเป็นของฝ่ายใด ระหว่าง รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ หรือม็อบราษฎร ยังต้องตามติด ลุ้นกันต่อในยกต่อไป ในปีฉลู วัวไฟ อีกรอบ !!