ข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาเศรษฐิจ จากสมุดปกขาวที่ยื่นต่อรัฐบาลนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จากการสัมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 38 มีข้อเสนอทั้งหมด 5 ข้อ
โดยหนึ่งในนั้นคือ การเสนอให้รัฐบาลกระตุ้นการใช้จ่ายทางเศรษฐกิจด้วยการขยายเวลาโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน สนับสนุนระบบ Co-payment และ Soft loan ผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยว รวมทั้งอยากให้รัฐบาลมุ่งดูแลความสงบเรียบร้อย ของประเทศเพื่อสร้างความสงบเรียบร้อยของประเทศ และสร้างความมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอยและการลงทุน
ซึ่งนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์กล่าวว่า เบื้องต้นพร้อมรับข้อเสนอของภาคเอกชน เพื่อทำการศึกษาต่อไป โดยข้อเสนอเหล่านั้น จะต้องศึกษาว่า เป็นการเสนอ เพื่อช่วยเหลือหรือสร้างประโยชน์ให้กับคนหมู่มาก หรือส่วนรวมหรือไม่ ซึ่งหากใช่ก็มีน้ำหนักในการพิจารณาต่อไป แต่หากเป็นข้อเสนอที่ช่วยหรือคนเฉพาะกลุ่ม อาทิ การปรับแก้ไขกฎหมาย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ก็อาจไม่สามารถพิจารณาตอบรับได้
ส่วนนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกนรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยืนยันโครงการคนละครึ่งเตรียมเปิดเฟส 2 อย่างแน่นอน หลังได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน เนื่องจากสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ใช้สิทธิได้อย่างเป็นรูปธรรม กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยได้อย่างชัดเจน และช่วยเหลือผู้ค้ารายย่อย หาบเร่แผงลอย พ่อค้าแม่ค้ารายเล็กได้อย่างแท้จริง ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้ ถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีเงินหมุนเวียนในระบบจากการใช้จ่ายของประชาชน และเป็นการเรียนรู้ระบบเทคโนโลยีการใช้แอปพลิเคชันไปในตัวด้วย โดยได้รับรายงานว่า ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 850,000 ร้านค้า มียอดการใช้จ่ายสะสม 28,609 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 14,599 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 14,010 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาการชุมนุมของคณะราษฎร 2563 ที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางภาคเอกชนมีความเป็นห่วง อยากให้รัฐบาลรวมถึงผู้ชุมนุมเจรจาโดยใช้สันติวิธี เพราะหากเกิดความรุนแรงหรือความวุ่นวายขึ้น จะมีผลกับความเชื่อมั่น การใช้จ่ายภายในประเทศ รวมถึงการลงทุนของทั้งนักลงทุนต่างประเทศและนักลงทุนไทย
ขณะที่นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า หากมีการยกระดับการชุมนุมขึ้นจะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า จากที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วงปลายไตรมาสที่1ปีหน้า เป็นฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง เพราะการชุมนุมจะมีผลกับความเชื่อมั่น การใช้จ่ายทำได้ไม่เต็มที่
เราเห็นว่า ทั้งข้อเสนอและข้อห่วงใยของภาคเอกชน รัฐบาลควรนำไปพิจารณาศึกษาความเป็นไปได้ และหาแนวทางลดความกังวลใจต่อสถานการณ์ โดยเฉพาะสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่อาจฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย แนวทางการเจรจาด้วยสันติวิธี ตามโมเดลของคณะกรรมการสมานฉันท์จึงต้องเร่งผลักดันให้เป็นรูปธรรม กำหนดกลไกให้สัมฤทธิ์ผลอย่างแท้จริง และโดยเร็ว