ถือเป็นเกมที่ผิดคาดอย่างแรงเมื่อการชุมนุมของ "กลุ่มราษฎร" เมื่อเย็นวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ไม่ "ปัง" กลายเป็นม็อบเบิ้มๆ อย่างที่คุยกันเอาไว้
จะด้วยเพราะในวันเดียวกัน ในพื้นที่เดียวกัน ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ไม่ได้มีเพียงกลุ่มราษฎร เท่านั้น แต่ยังกลายเป็นว่ามีกลุ่มคนในนามกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.)สวมใส่เสื้อสีเหลืองมาชุมนุมแสดงพลัง ขอยืนเคียงข้างสถาบันพระมหากษัตริย์
การชุมนุมตลอดช่วงเช้าจนถึงเย็น แม้จะใช้พื้นที่การชุมนุมของม็อบ ที่ต่างกันด้วยแนวคิดและอุดมการณ์ แต่ไม่ปรากฎว่าจะเกิดการปะทะกันอย่างที่หลายฝ่ายได้วิตกกันตั้งแต่แรก มีเพียงการกระทบกระทั่งกันประปรายเท่านั้น ก่อนที่ต่อมาทางกลุ่มคนเสื้อเหลือง เครือข่ายปกป้องสถาบันจะประกาศยุติการชุมนุม
แต่ประเด็นที่น่าสนใจ ควบคู่ไปกับการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมในนามกลุ่มราษฎร ที่บัดนี้ พบว่าบรรดาแกนนำตัวหลักๆ ไม่ว่าจะเป็น ไมค์ ระยอง , รุ้ง ปนัสนา, เพนกวิน ที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลและอยู่ในระหว่างพักฟื้น ไม่ได้ออกมานำทัพด้วยตัวเอง จึงส่งผลให้ การชุมนุมในช่วงแรก จึงเป็นไปในลักษณะที่ "เลี้ยงกระแส" ดึงเวลาเพื่อให้มวลชนทยอยมาร่วมสมทบ
เพื่อร่วมกันทำแคมเปญ "ราษฎรสาส์น" เชิญชวน ผู้ชุมนุมให้ร่วมกันเขียนจดหมายของทุกคน เพื่อยื่นถึงพระมหากษัตริย์
ในการชุมนุมของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลที่ยังคงประกาศจุดยืนยื่น 3ข้อเรียกร้องคือ 1. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่2. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ต้องลาออก และ 3. ให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ปรากฎว่าการชุมนุมครั้งนี้ นอกจากจะไม่มีอะไรให้เซอร์ไพรซ์ ตามที่ได้มีการประกาศเชิญชวนกันผ่านโซเชี่ยลแล้ว ยังกลายเป็นว่า ได้เปิดพื้นที่ให้กับ "คนเสื้อแดง" เข้ามาชิงพื้นที่สื่อ อย่างต่อเนื่อง
จะเป็นเพราะด้วยเหตุที่ แกนนำตัวหลักๆของกลุ่มราษฎร พากันติดบ่วงคดีความถ้วนหน้า จนทำให้ยากที่จะขยับออกมานำการชุมนุมเองหรือไม่ก็ตาม แต่มีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อกลุ่มนักศึกษา เยาวชน เริ่ม "แผ่ว" ก็เหมือนเป็นการเปิดทางให้ "คนเสื้อแดง" ขยับขึ้นมาเล่นอยู่ในแถวหน้าแทน ในชื่อสารพัดกลุ่ม อาทิ กลุ่มเสื้อแดงก้าวหน้า 63
ก่อนหน้านี้ มีการตั้งข้อสังเกตกันมาโดยตลอดว่า ภายใต้การเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล ไปจนถึงการจี้ให้มีการปฏิรูปสถาบันจนทำให้เกิดความไม่พอใจต่อผู้คนในสังคมนั้น มีคนเสื้อแดงเข้ามาให้การสนับสนุนด้วยหรือไม่ เช่นเดียวกันกับการที่มีการจับตามองว่าคนของพรรคเพื่อไทย เข้าไปมีส่วนด้วยมากน้อยแค่ไหน
แต่ดูเหมือนว่ายิ่งนานวัน กลับเกิดประเด็นใหม่ที่กำลังทำให้เรื่องราวร้อนๆ ถูกโยงไปถึงพรรคเพื่อไทย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง "นายหญิง" ของพรรคแจ่มชัดมากขึ้นทุกที
ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ 3แกนนำม็อบทั้งรุ้ง ไมค์และเพนกวิน ต่างได้รับการพาเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ซึ่งมี "นายหญิง" ของพรรคเพื่อไทย ถือหุ้นของโรงพยาบาล ท่ามกลางกระแสข่าวสะพัดว่า มี "บิ๊ก" ของพรรคเพื่อไทย เป็นคนประสานผ่านไปยัง "นพ.ทศพร เสรีรักษ์" คนของพรรคเพื่อไทยเอง จนล่าสุดนพ.ทศพร ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า แกนนำเยาวชนทั้ง3คนต่างออกค่ารักษาพยาบาลกันเอง ก็ตามแต่ดูเหมือนว่า ฝ่ายตรงข้ามกลับไม่เชื่อ
แน่นอนว่าการชุมนุมครั้งนี้ยังหาข้อยุติและบทสรุปไม่ว่าที่สุดแล้ว ข้อเสนอข้อที่ 3 ว่าด้วยการปฏิรูปสถาบัน จะไปสุดทางที่ใด หรือไม่มีทางที่จะบรรลุเป้าหมาย แต่ประเด็นใหม่ที่ถูกจับตานั่นคือการที่พรรคเพื่อไทย และ "นายหญิง-นายใหญ่" กลายเป็น "เป้า" ที่ถูกจับตามองว่า นอกจากจะไม่ยอมแพ้แล้ว จะเกิดความเสียหายตามมาจากนี้หรือไม่ ?