ทีมข่าวคิดลึก การต่อสู้ของ "จำเลย" ที่ชื่อ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรีในคดีทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น เมื่อยิ่งลักษณ์ ไม่ยอมจำนน รอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ชี้ชะตา โดยที่ไม่หาทางออก แม้ล่าสุดทีมทนายความของยิ่งลักษณ์ ได้ใช้ "เทคนิคทางกฎหมาย"ขึ้นมาสู้ ก็ยังต้องรอลุ้นการพิจารณาจากศาลฎีกาฯ กันต่อไปว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมาเช่นใดแน่นอนว่าสำหรับตัวอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ แล้ว "ชัยชนะ" หรือ "ความพ่ายแพ้" ในคดีรับจำนำข้าว ล้วนแล้วแต่เป็น "เดิมพัน" ที่สูงลิบลิ่ว อย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งต่อสถานะโดยส่วนตัวของเธอเอง จะสามารถรอดพ้นความผิดจากมาตรา 157 อันมีบทลงโทษที่หนักหนาสาหัส คือการจำคุกหรือไม่แล้ว ยังต้องไม่ลืมว่าตัวเธอเองยังต้องต่อสู้เพื่อรักษา "ที่ยืน" ในทางการเมืองอีกด้วย ! ยิ่งในห้วงเวลานี้บารมีของ "คนนอก" อย่าง "คุณหญิงหน่อย" คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย กำลังกลายเป็น "หุ้น"ราคาดี พุ่งทะยาน โดดเด่นมากที่สุดในพรรคเพื่อไทย ท่ามกลางกระแสข่าวว่า "ทักษิณชินวัตร" อดีตนายกฯ ได้ให้ไฟเขียวตัดสินใจมอบหมายให้คุณหญิงสุดารัตน์ นำทัพลงสู้ศึกเลือกตั้ง เพราะทอดตาไปทางไหน ก็เห็นแต่จะมีเพียงคนนอกที่ไม่ใช่เครือญาติ "ตระกูลชินวัตร" อย่างคุณหญิงสุดารัตน์ เท่านั้นที่เหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์เช่นนี้ อย่างไรก็ดีการที่มีข่าวว่าคุณหญิงสุดารัตน์ จะก้าวขึ้นมาถือธงนำทัพการเลือกตั้งรอบนี้ อาจไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้ฝ่ายพรรคเพื่อไทย พลิกสถานการณ์กุมแต้มต่อได้เพียงฝ่ายเดียว เพราะต้องไม่ลืมว่าการต่อสู้ในทางการเมืองนั้น สามารถแปรเปลี่ยนกันได้ตลอดเวลา และที่น่าสนใจไปกว่านั้นอย่าลืมว่าการเมือง ไม่อาจมองได้เพียงชั้นเดียว ! การที่มีข่าวว่าคุณหญิงสุดารัตน์จะมานำทัพเพื่อไทย มาพร้อมกับข่าวลือที่ว่านี่อาจเป็นรายการ "ปรองดองภาคพิเศษ" หรือไม่ ระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับทักษิณเจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง เนื่องจากก่อนหน้านี้คุณหญิงสุดารัตน์ ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเธอเองนั้นมีคอนเน็กชั่น กับ"บิ๊กทหาร" ใน คสช. ด้วยกันหลายต่อหลายคน นั่นหมายความว่า โอกาสที่พรรคเพื่อไทยกับ คสช. จะลดทอนความร้อนแรงที่เคยมีต่อกัน อาจเป็นกระแสที่ขัดใจบรรดา "กองเชียร์" ที่เคยสนับสนุนคสช. อยู่ไม่น้อย แต่ในทางตรงกันข้ามจากกระแสและทิศทาง ทางการเมืองเช่นนี้ อาจกลายเป็นการสร้างความได้เปรียบให้กับ คสช. อยู่ไม่น้อย เพราะนี่อาจกลายเป็น การสร้าง"ราคาต่อรอง" ให้กับ คสช. ว่ายังมี"ตัวเลือก" ในมือ ไม่ใช่แค่เพียง "แนวร่วมทางการเมือง" กลุ่มเดิม หน้าเก่าเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น พรรคประชาธิปัตย์พรรคขนาดเล็ก หรือแม้แต่ "กลุ่มกปปส." ไม่ว่ากระแสข่าวว่าทักษิณ ส่งคุณหญิงสุดารัตน์ เพื่อทำหน้าที่ "ประนีประนอม" กับ คสช.จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ตาม แต่อย่างน้อยที่สุด การประเมินสถานการณ์ว่า เกมนี้ ทั้งพรรคเพื่อไทยและคุณหญิงสุดารัตน์จะเป็นฝ่ายได้เปรียบ อาจเป็นการ"ด่วนสรุป" ที่เร็วเกินไป !