แก้วกานต์ กองโชค “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คงจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในสมัยนี้ไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดเวลาไว้ว่า หากใครจะลงสมัคร ส.ส. ต้องลาออกภายใน 90 วัน ภายหลังจากรัฐธรรมนูญบังคับใช้ ซึ่งจะครบกำหนดภายในวันที่ 5 ก.ค.นี้แล้ว” นายวิทยา แก้วภราดัย แกนนำ กปปส. และอดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) บอกข้อมูลกับนักข่าวไว้เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2560 วิทยาวิเคราะห์การเมืองอย่างผู้เชี่ยวชาญว่า "คงไม่มีทางอย่างแน่นอนที่อยู่ๆ พล.อ.ประยุทธ์จะลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี หรือจะทิ้งเก้าอี้ภายใน 2-3 วัน เพราะงานบริหารประเทศของท่านยังมีอีกมากมาย มีปัญหาที่จะต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องปัญหาแรงงานต่างด้าวในขณะนี้ ท่านจะทิ้งงานไปได้อย่างไร" เขายังฟันธงไปอย่างไม่ลังเลอย่างชัดเจนว่า “หาก พล.อ.ประยุทธ์จะกลับเข้ามาเป็นนายกฯ ต่อได้ จะต้องมีวิธีเดียว คือการเป็นนายกฯ คนนอก เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดว่าเป็นได้ และระบบนายกฯ คนนอกนี้เราก็เคยใช้กันมาก่อนแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลย เพียงแต่ต้องปรับที่มาให้เข้ากับยุคสมัยเท่านั้นเอง” แต่วิทยาก็อธิบายแบบนักการเมืองที่คร่ำหวอด เหมือนกับสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ว่า “ประเทศไทยเราเคยมีนายกฯ คนนอกมาก่อน ก็ไม่ใช่ว่านายกฯ คนนอกเขาจะไม่ดี บางทีนายกฯ คนนอกยังดีกว่านายกฯ ที่มาจาก ส.ส.บางคนเสียอีก ดังนั้นหาก พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯ คนนอกหรือไม่ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด” การออกตัวสนับสนุนของวิทยา ก็คล้ายๆกับการแนะนำของ “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ในฐานะประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชน อธิบายปรากฎการณ์อดีตแกนนำ กปปส.กลับเข้าพรรคประชาธิปัตย์ ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ “การหวนกลับไปสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ของแกนนำ กปปส. ไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไร เนื่องจากเป็นการกลับไปเป็นนักการเมือง เพื่อประกอบอาชีพที่พวกเขาถนัดเหมือนคนทั่วไป” “ผมขอย้ำจุดยืนว่า ขอสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ช่วงเปลี่ยนผ่าน เพราะมีความกล้าที่จะปฏิรูปประเทศ” ลุงกำนันประกาศเสียงดังฟังชัดแบบไม่ลังเล เช่นเดียวกับวิทยา แก้วภราดัย นั่นหมายความว่า แกนนำกปปส. ยืดอกสนับสนุน เส้นทางทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างเต็มที่ ขณะที่แกนนำบางคน ก็ให้คำมั่นสัญญาว่า “พรรคประชาธิปัตย์ จะมีการปฏิรูปตัวเองอย่างแน่นอน” เพื่อเดินตามแนวทางการปฏิรูปของประเทศ “นายอภิสิทธิ์ คือหัวหน้าพรรค กปปส. พร้อมให้การสนับสนุน และจะร่วมทำงานเพื่อผลักดันให้เกิดการปฏิรูปประเทศและปฏิรูปพรรคอย่างเต็มที่ และให้เป็นรูปธรรมที่สุด ส่วนเมื่อครบวาระแล้วจะมีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคกันใหม่ในปีหน้า (2561)” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตโฆษก กปปส.บอกกับนักข่าวไอเอ็นเอ็นไว้ จนทำให้เกิดข้อสงสัยว่า พรรคประชาธิปัตย์จะผนวก ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไป ต่างกับความคิดเห็น ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษาแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เธอบอกว่า “ขณะนี้เสียงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์แบ่งออกเป็นสองเสียง คือสนับสนุนให้เป็นนายกฯ โดยไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง และสนับสนุนให้ลงเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ หาก พล.อ.ประยุทธ์ต้องการความสง่างาม 1.ต้องวางมือทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง 2.ตั้งพรรคการเมืองลงสมัครรับเลือกตั้งตามเสียงเชียร์ 3.เว้นวรรคทางการเมือง แล้วค่อยลงรับสมัครเลือกตั้ง” “พล.อ.ประยุทธ์ต้องไม่เอาเปรียบคนอื่น เพราะถือว่าได้เอาเปรียบคนอื่นไปมากแล้ว เนื่องจากมีอำนาจมากกว่านายกฯ ปกติ ทั้งที่ไม่ได้มาจากวิธีการที่ถูกต้อง” ประธานที่ปรึกษา นปช. วิจารณ์พล.อ.ประยุทธ ดูเหมือนว่า ใครก็เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ????