ประเด็นการปฏิรูปตำรวจ โดยข้อเสนอของนายวิชา มหาคุณประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ที่ได้สรุปผลการศึกษาแนวทางการปฏิรูปตำรวจ เสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณา มีประเด็นสำคัญคือระบบการแต่งตั้งให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ คือระบบอาวุโสกับความรู้ความสามารถ และสายงานสอบสวน ต้องเป็นสายที่มีความรู้ความชำนาญ เป็นอิสระ และได้รับค่าตอบแทนที่เป็นพิเศษ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ได้รับผลการศึกษาไปพิจารณา
แม้ที่ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. .... โดบมีสาระสำคัญคือ1.การบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจ มีการแบ่งสายงานเพื่อให้ข้าราชการตำรวจในแต่ละสายงานให้สามารถเจริญเติบโตตามสายงานด้วยความรู้ความชำนาญในสายงานของตนให้ชัดเจน แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มสายงาน คือ กลุ่มสายงานบริหาร กลุ่มสายงานอำนวยการและสนับสนุน กลุ่มสายงานสอบสวน กลุ่มสายงานป้องกันและปราบปราม แล กลุ่มสายงานวิชาชีพเฉพาะ (ซึ่งเดิมไม่มีการกำหนด) ทั้งนี้ ให้กำหนดกระบวนการในการแต่งตั้งและการเลื่อนตำแหน่งให้ชัดเจน โดยคำนึงถึงอาวุโสความรู้ความสามารถ และความพึงพอใจในบริการที่ประชาชนได้รับ และมีการกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจน เพื่อเป็นการลดการใช้ดุลพินิจของผู้บังคับบัญชา รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกระบวนการแต่งตั้ง และการเลื่อนตำแหน่งของสายงานสอบสวนไว้เป็นการเฉพาะ (จากเดิมไม่มีการกำหนด)
2. ปรับปรุงระบบ คกก. ยกเลิก คกก. เดิม คือ คกก. นโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) โดยให้มีเพียง คกก. ข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ทำหน้าที่ทั้งในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การบริหารราชการตำรวจ และกำกับดูแล ตช. ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย นโยบาย ยุทธศาสตร์ชาติ มติครม. และระเบียบแบบแผน รวมทั้งกำหนดนโยบายและมาตรฐานการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจและจัดระบบราชการตำรวจ กำกับดูแลการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจตลอดจนกำกับดูแลการจัดสรรงบประมาณให้แก่ส่วนราชการในหน่วยปฏิบัติให้เพียงพอ ให้มี คกก. พิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ เพื่อพิจารณาวินิจฉัย อุทธรณ์เรื่องร้องทุกข์ รวมทั้งการกำหนดระบบคุณธรรมเพื่อเป็นที่พึ่งของข้าราชการ ตำรวจในการปลดเปลื้องทุกข์ของข้าราชการต้ารวจที่เกิดจากผู้บังคับบัญชา ให้มี คกก. พิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ เพื่อเป็นกลไกสำหรับประชาชน ในการร้องเรียนการปฏิบัติที่ไม่ชอบของข้าราชการตำรวจอันเป็นการปลดเปลื้องทุกข์ ของประชาชน
3. การเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน ปรับปรุงการจัดระเบียบราชการใน ตช. ใหม่ โดยแบ่งส่วนราชการออกเป็น ระดับกองบังคับการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรจังหวัด และสถานีตำรวจ จากเดิม แบ่งเป็น สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการ เพื่อเป็นหน่วยงานที่ให้บริการประชาชนและใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด จะช่วยให้การบริการ ประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น
กำหนดให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในกิจการตำรวจ โดยการให้เงินอุดหนุนแก่ สถานีตำรวจเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจในสถานีตำรวจนั้น ที่จะได้ร่วมกับท้องถิ่นในการจัดทำแผนหรือมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ที่สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละท้องถิ่น หรือชุมชน จัดตั้ง“กองทุนเพื่อการสืบสวน สอบสวน การป้องกันและปราบปราม การกระทำความผิดทางอาญา” เพื่อเป็นแหล่งสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติหน้าที่ ของข้าราชการตำรวจ
กระนั้น เพียงก้าวเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข หรือ “บิ๊กปั๊ด” ก็สร้างปรากฏการณ์ให้เกิดขึ้นในสังคมให้มองเห็นสัญญาณที่ดีในการปฏิรูปตำรวจให้เป็นที่พึ่งและศรัทธาของประชาชน
ไม่ว่าจะเป็นการออกคำสั่งงดมาอวยพรแสดงความยินดี และมอบของขวัญ โดยขอให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในงานที่ได้รับมอบหมาย ทั้งการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การให้บริการ การช่วยเหลือ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเต็มประสิทธิภาพ ถือว่าเป็นการแสดงความยินดีอย่างยิ่งแล้ว และตามมาด้วยการนโยบายในเรื่องการ Set sero การตั้งด่าน
ขณะที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ได้แสดงความเห็นในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยมองว่า การเริ่มต้นที่ดี ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ น่าจะทำให้ภาพลักษณ์ตำรวจดีขึ้น และต่อไปนี้ ตำรวจจะได้เปลี่ยนแปลงอะไรให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ