ชาวบ้านไทยโดยทั่วไปแล้ว สนใจเรื่องใกล้ ๆ ตัว เรื่องรอบ ๆ ตัวเองเป็นหลัก
สังเกตจากการเสนอข่าวของสื่อสิ่งพิมพ์ในอดีต หนังสือพิมพ์ที่ชาวบ้านนิยมจะเน้น “ข่าวชาวบ้าน Public Interest” ทำนอง หมูออกลูกหน้าเหมือนควาย กล้วยออกปลีกลางต้น ฯลฯ ส่วนข่าว hard news เกี่ยวกับสถานการณ์โลก จะไม่ค่อยให้ความสนใจนัก
ทุกวันนี้ การโพสต์เรื่องในโซเชียลมีเดีย ก็ยังโน้มเอียงไปตามรสนิยมนั้นอยู่
เรื่องน้เราเข้าใจได้ เพราะสถานการณ์ในต่างประเทศมันดุเหมือนไกลตัวไป เรื่องการเมืองในสหรัฐอเมริกา ในยุโรป ในจีน ฯลฯ จะมาเกี่ยวอะไรกับหมู่บ้านของฉัน ทำไมจะต้องไปสนใจด้วย
อันที่จริงเราก็มีนิสัยเหมือนคนไทยทั่วไป คือไม่อยากจะไปเกี่ยวอะไรกับ ‘เขา’ มากมาย แต่ความเป็นจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ต่างชาติ‘เขา’ จะมายุ่งกับเรา อย่างที่เราหลีกหนีไม่พ้น
ทำนองเดียวกับเรื่อง “การเมือง” น้อยคนที่อยากจะยุ่งเกี่ยวฝักใฝ่กับเรื่องการเมือง แต่ก็หลีกหนีไม่พ้น เพราะการเมืองส่งผลกระทบถึงทุกชีวิตในเมืองไทย
ดูโลกวันนี้ก็แปลก ผู้นำประเทศทุนนิยมศูนย์กลางที่มาจากการเลือกตั้ง เช่น สหรัฐอเมริกา , สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) หันมาโฆษณานโยบายชาตินิยม กีดกันการลงทุนเสรีแบบโลกาภิวัตน์ แต่จีนประกาศหนุนโลกาภิวัตน์เต็มที่ เช่นที่ประธานประเทศจีน – สีจิ้นผิง กล่าววิจารณ์สหรับอเมริกาว่า
"ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ แต่เศรษฐกิจโลกก็เป็นมหาสมุทรขนาดใหญ่ที่คุณไม่สามารถว่ายหนีออกมาได้เลย ไม่ว่าคุณจะพยายามตัดช่องทางการไหลของเงินทุน เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม และผู้คนออกมามากเท่าไหร่ หรือพยายามเปิดช่องทางให้น้ำจากมหาสมุทรมาไหลลงมาสู่ทะเลสาบหรืออ่าวเล็กๆ ที่อยู่โดดเดี่ยว ก็ล้วนแต่เป็นวิธีที่สวนทางกับแนวโน้มในอดีต"
และเปรียบเปรยว่า สหรัฐกำลังจะขังตัวเองอยู่ในห้องมืด
"การผลักดันให้เกิดการกีดกันทางการค้าก็เหมือนกับการขังตัวเองไว้ในห้องมืด ถึงแม้ว่าลมและฝนภายนอกอาจจะสงบลงแล้ว แต่ห้องมืดก็ยังบดบังแสงแดดและอากาศไม่ให้เข้ามาในห้องได้ ซึ่งจะไม่มีใครสามารถคว้าออกมาชัยชนะในสงครามทางการค้าได้เลย"
สหรัฐอเมริกา-ญี่ปุ่น-เวียดนาม ขัดแย้งกับจีน เรื่องการครอบครองหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ แล้วพยายามลากประชาคมอาเซียนเข้าเป็นพวก ทีนี้มันก็ยุ่งไปถึงหมู่บ้านของท่านด้วย
สถานการณ์ก่อการร้ายในเมืองมาราวี หมู่เกาะมินดาเนา ผู้ก่อการร้ายสามร้อยคนติดอาวะหนักร้ายแรง สามารถยึดเมือง ๆ หนึ่งได้ กองทัพฟิลิปปินส์ ต้องใช้กำลังพลมากมายเข้าไปปราบ อพยพประชาชนให้พลัดพรากจากบ้านช่องสามแสนกว่าคน รวมกำลังทหารและผู้สนับสนุนแนวหลังแล้วก็มีผู้คนเดือดร้อนวุ่นวายประมาณสี่แสนคน เรื่องนี้ถ้ามีคนเอาอย่างเลียนแบบ ยึดเมืองสักเมืองในมาเลเซียหรือในประเทศไทยบ้าง ชาวบ้านไทยจะทำตัวอย่างไร
โลกสากลมันเข้ามาป่วนคนไทย เราจะขังตัวเองอยู่ในห้องมืดต่อไปไม่ได้แล้ว
โลกกำลังหันเห สหรัฐอเมริกาที่เคยวิพากย์โจมตี “แนวทางประชานิยม” Populism หันมาเชิดชู “ประชานิยมใหม่ – New Populism” เสียเองเพื่อเอาใจพลเมืองผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง นักการเมืองสหรัฐทำได้ทุกอย่างเพื่อชนะการเลือกตั้ง ทำให้ผู้คนส่วนหนึ่งเริ่มสูญเสียความเชื่อมั่นศรัทธาในความสัตย์ซื่อของสถาบันทางสังคม จนขนานนามยุคนี้ว่า “ยุคพ้นความจริง – Post Factual Era” คือเชื่อถือบุคคลและ สถาบันทางสังคมอะไรไม่ได้อีกแล้ว !
สถานการณ์เศรษฐกิจการเมืองโลกจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยในปีนี้ เราจึงอยากให้ชาวไทยเรียนรู้สถานการณ์ต่างประเทศ และปรับตัวไว้รับมือกับวิกฤติในอนาคตอันใกล้