แม้จะมีความวิตกกังวลต่อการกลับมาระบาดระลอกสองของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่สถานการณ์เศรษฐกิจที่อยู่ในห้องฉุกเฉิน ก็จำเป็นต้องเร่งปั๊มหัวใจอย่างเร่งด่วน ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค.เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2563 จึงรับทราบรายงานการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษหรือการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้แบบจำกัดจำนวน มี 6 กลุ่ม โดยมีมาตรการรองรับ ได้แก่ นักกีฬาต่างชาติที่เดินทางเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ช่วงวันที่ 6-16 ต.ค. 2563 นักบินและลูกเรือบริษัท การบินไทย ในเที่ยวบินรับส่งบุคคลกลับไทย (Repatriation Flight) ผู้ที่ถือวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant) ประเภทต่างๆ เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เน้นย้ำว่าเป็นนักธุรกิจที่ไม่มีใบอนญาตทำงานในประเภทต่างๆ ผู้ขอวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับกลุ่ม Long Stay ผู้ที่จะเข้ามาต้องถือตรวจลงตราประเภท Special Tourist Visa โดยนายกรัฐมนตรีเห็นควรให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหารือร่วมกันกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดเงื่อนไขการลงตราให้สอดคล้องกันบนพื้นฐานการคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศที่จะได้รับจากการเดินทางเข้ามา และ ผู้ถือบัตร APEC Card เป็นนักธุรกิจที่มีการคัดกรองและได้รับการยอมรับจากประเทศทาง APEC 18 ประเทศต้นทาง โดยเลือกประเทศที่มีความเสี่ยงน้อย เช่น นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง คาดว่าจะมีประมาณ 1 แสนคน และผู้ที่ประสงค์จะพำนักในประเทศไทยในระยะเวลาสั้นและระยะยาวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร มีคนที่ต้องการจะมาอยู่ในประเทศไทย 60 วัน สามารถขอต่อได้อีก 30 วัน โดยต้องมีบัญชีฝากย้อนหลัง 6 เดือน เทียบเป็นเงินไทยไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้พิจารณาอนุญาต นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบอนุญาตให้สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยเสนอจัดการแข่งขันแบดมินตันระดับนานาชาติ หรือ BWF World Tour ในประเทศไทย ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วง มกราคม 2564 ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่าปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่แจ้งความประสงค์เดินทางเข้าประเทศไทยหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มแรกแจ้งมาว่าพร้อมเดินทางในวันที่ 8 ตุลาคม2563 คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนจากกว่างโจว 150 คน เดินทางมากับสายการบินแอร์เอเชียแบบเช่าเหมาลำมาสนามบินภูเก็ต ส่วนการกักตัว เริ่มที่ช่วงแรกกำหนด 14 วัน หากดีขึ้นเหลือ 7 วัน และ 6 ชั่วโมงตามลำดับ ทั้งนี้มีเป้าหมายว่าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มแรกมาไทยได้ในเดือนตุลาคมนี้ อย่างไรก็ตาม เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ระบุว่า ผลสำรวจพฤติกรรมการป้องกันตนเองของคนไทย ระหว่าง 15 พ.ค. - 10 ก.ย. 2563 โดยสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ พบคนไทยการ์ดเริ่มตก ปฏิบัติตาม 6 มาตรการหลักป้องกันโควิด-19 ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสวมหน้ากากลดลงกว่า 90% ดังนั้น ภายใต้สถานการณ์ที่ไทยกำลังเปิดประเทศรับนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว และนักกีฬา เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในขณะที่ความตื่นตัวในการป้องกันตนเองของประชาชนกำลังลดต่ำลงสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงและต้องเร่งรณรงค์ให้หันกลับมาตั้งการ์ดให้สูง และพึงระลึกไว้เสมอว่า โควิด-19 ยังไม่มีวัคซีน วัคซีนที่ดีที่สุดคือ หน้ากาก