อย่าคิดว่า "ความวุ่นวาย" ที่กำลังปกคลุมอยู่ที่ "พรรคเพื่อไทย" จะไม่เกิด เอฟเฟ็กซ์ ส่งแรงสะเทือนมาถึง "พรรคร่วมฝ่ายค้าน" รวมทั้ง "ม็อบปลดแอก" ที่เปิดเกมรบ ไล่รัฐบาลอยู่นอกสภาฯ ด้วยความฮึกเหิม เพราะแท้จริงแล้วนี่คือหนังม้วนเดียวกัน !
อาการแพแตก ที่พรรคเพื่อไทยยามนี้ ทำให้บรรดา "แม่ทัพนายกอง" พากันอยู่ในความตื่นตระหนกไม่น้อย เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหัน ส.ส.จำนวนไม่น้อย ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเพื่อ "ตั้งรับ" กับการปรับทัพ ปรับโหมดการเดินข้างหน้าของพรรคเพื่อไทย ที่อาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
การประกาศลาออกจากตำแหน่ง "ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย" ของ "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" เมื่อคืนวันที่ 25 ก.ย.เป็นต้นมา ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้น ให้ "แกนนำพรรค" ทยอยประกาศลาออกจากตำแหน่งต่างๆในพรรคเพื่อไทย คงเหลือเอาไว้เพียงสถานะ "สมาชิกพรรค"
ไม่เว้นแม้แต่ "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์" ที่ต้องทิ้งตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อเปิดทางให้ "ทุกตำแหน่ง" ในคณะกรรมการบริหารพรรค ยุติลงตามไปด้วย เมื่อวันที่ 26 ก.ย. โดยสมพงษ์ ให้เหตุผลว่า เมื่อ function ต่างๆในพรรคเปลี่ยนไปแล้ว
"ถ้าหากว่าฟังก์ชั่นของพรรคอาจจะปรับในเรื่องของรูปแบบการบริหารใหม่ ถ้าจะต้องทำ ทางที่ดีที่สุดก็คือถ้าหัวหน้าพรรคลาออกสักคน ตำแหน่งต่าง ๆ ก็ต้องออกไปหมด ก็มีการจัดสรร"
ลมที่เปลี่ยนทิศ พรรคเพื่อไทยไม่ใช่แค่เพียง พรรคแกนนำ พรรคร่วมฝ่ายค้านเท่านั้น แต่ยังต้องไม่ลืมว่า ภารกิจของ "6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน" ยังต้องต่อสู้กับ "รัฐบาล-ส.ว."เพื่อผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้สำเร็จ
นอกจากนี้อย่าลืมว่า การชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก และแนวร่วมพันธมิตรทั้งเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ท้องสนามหลวง และการชุมนุมกดดันรัฐบาล 250 ส.ว.ให้โหวตรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่หน้ารัฐสภาเมื่อคืนวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่า ม็อบเยาวชนได้รับ การสนับสนุนจากคนของพรรคเพื่อไทยที่พา "คนเสื้อแดง"เข้ามาสมทบ จนทำให้ม็อบเยาวชนเองถูกเยาะเย้ยว่างานนี้มีแต่ "คนเสื้อแดง" รวมทั้งยังใช้รูปแบบการชุมนุมที่เรียกว่า "เสื้อแดงโมเดล"
และเมื่อพรรคเพื่อไทยจำต้องเปลี่ยนท่าที ปรับโหมดการเล่นด้วยการ "ถอย" ออกจากความขัดแย้ง แล้วปล่อยให้ "พรรคก้าวไกล+คณะก้าวหน้า" กับ "ม็อบเยาวชน" เปิดเกมรุกไล่รัฐบาล ไปตามลำพังแล้ว โอกาสที่จะเกิด "ม็อบเบิ้มๆ" ภาค 2 ตามที่แกนนำม็อบ นัดหมายกันเอาไว้ว่าจะจัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 ต.ค.นี้ จะเป็นไปได้หรือไม่
เมื่อแนวร่วมนอกสภาฯ ตัวหลักๆอย่างพรรคเพื่อไทย สละเรือ เพราะประเมิน "ทิศทางลม"แล้วรู้ดีว่าบัดนี้หลายสิ่งหลายอย่าง จำต้อง "เปลี่ยน" เพื่อรักษาตัวรอด ไม่ยอม "ตายหมู่" กับม็อบที่มีจุดหมายก้าวล่วงไปถึงสถาบันแล้ว จากนี้ไป พรรคก้าวไกล และม็อบเยาวชน คงต้องออกแรงพายเรือกันไปตามลำพัง !