สถาพร ศรีสัจจัง ได้ยินมานานแล้วกับสโลแกนโฆษณาผ่านสื่อที่ว่า “ข้าราชการคือคนที่ทำให้ประชาชนชื่นใจ” แต่ต้องบอกตรงๆว่าทั้งโดยประสบการณ์ตรง คือที่พบด้วยตัวเอง และประสบการณ์ทางอ้อม คือจากปากคำความเห็นชาวบ้านมักพบว่า กล่าวโดยทั่วไปแล้ว สโลแกนดังกล่าวยังห่างไกลความจริงอยู่มาก!         โดยเฉพาะจากข้าราช “เจ้าอำนาจ” ประเภทตำแหน่งที่สามารถ “ให้คุณให้โทษ” ทั้งหลาย เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าฝ่ายมหาดไทยด้านต่างๆ (ที่นั่งอยู่ตามโต๊ะทั้งโต๊ะเล็กโต๊ะใหญ่บนศาลากลาง หรือที่ว่าการอำเภอทั้งหลาย เป็นต้น) เจ้าหน้าด้านที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม ฯลฯ          หลายครั้งแม้แต่ในองค์กรรัฐวิสาหกิจทั้งหลายที่ใช้ทั้งเรทติ้งเงินเดือนและสวัสดิการต่างๆจากภาษีราษฎร(ทั้งทางตรงและทางอ้อม)แพงกว่าข้าราชการเสียอีก ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าหรือประปา ฯก็ไม่ยกเว้น          ข้อเรียกร้องของสังคมที่ผ่านมาจึงมักมีแต่ว่า “แย่ต้องปฏิรูปได้สักทีแล้ว!”          กยท.หรือการยางแห่งประเทศไทยนั้นอัฟเกรดมาจาก สกย.หรือ “สำนักงานสงเคราะห์การทำสวนยาง”เก่า เรียกชื่อย่อเป็นภาษาอังกฤษว่า RAOT ย่อมาจาก Rubber Authority of Thailand ฟังชื่อดูแล้วเหมือนมีมาตรฐานสูงขึ้น เป็นสากลมากขึ้น ยิ่งไปเปิด “อากู๋” ดูเห็นชื่อผู้ว่าการมีคำ “ดอกเตอร์” นำหน้าอยู่ด้วย ก็ยิ่งเชื่อว่าการปรับเปลี่ยนชื่อองค์กรของผู้มีอำนาจเกี่ยวข้องคงจะเกิดจากความต้องการให้เป็นหน่วยงานที่ทันสมัยขึ้น รับใช้ชาวบ้านร้านช่องพ่อค้าพ่อขายที่เกี่ยวข้องกับยางพาราได้มาก และ “ทันกาล” ยิ่งขึ้นกระมัง?           ก็รู้ๆกันอยู่ใช่ไหม ว่ายางพารานั้นเป็น “เส้นเลือด” เส้นสำคัญเส้นหนึ่งของระบบเศรษฐกิจพื้นฐานของไทย โดยเฉพาะของชาวบ้านภาคใต้บังเอิญมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรง และโดยอ้อมอยู่กับหน่วยงานของรัฐหน่วยนี้อยู้บ้างเล็กน้อย จึงอยากเป็นอีกเสียงเล็กๆหนึ่ง ที่จะช่วยยืนยันให้รับรู้ทั่วกันว่า ข้าราชการหรือคนทำงานของรัฐที่กินเงินเดือนและรับสวัสดิการทั้งหลายจากชาวบ้านประเภท “ทำให้ประชาชนชื่นใจ” นั้นยังพอมีอยู่ หรืออาจใช้คำว่า “เกิดขึ้นบ้างแล้ว” ก็ได้            อยากแจ้งให้ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย(คนที่เป็นดอกเตอร์คนนั้นนั่นแหละ)ได้ชื่นใจเป็นคนแรกว่า ลูกน้องระดับปลายแถว(แต่ความรู้ ความมุ่งมั่นในการทำงาน และจิตใจบริการน่าจะอยู่ระดับต้นๆแถว)ที่สอบถามแล้วทราบรายละเอียดว่าชื่อ คุณพิมพ์ภิลา ศุภเจริญกูล ตำแหน่ง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ประจำสาขาอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง(นามสกุล “ชวนหลีกภัย”?)เป็นที่ชื่นชมของชาวบ้านในพื้นที่ๆเธอรับผิดชอบอยู่มากจริงๆ ทั้งในพื้นที่ตำบลวังวน บ้านป่าเต และอื่นๆ              สังเกตการณ์และสอบถามชาวบ้านมายาวนานเกือบปีแล้ว ยืนยันตรงกันได้ว่าเธอรับผิดชอบในหน้าที่การงานอย่างนอดเยี่ยม เอาใจใส่ส่งเสริมให้ความรู้ชาวบ้านผู้รับบริการอย่างตั้งใจและยิ้มแย้มแจ่มใสชวนให้ผู้สัมพันธ์พบเห็นได้ “ชื่นใจ” จริงๆ!               เป็นหญิงสาวคมเข้มที่เห็นปุ้บรู้ปั๊บว่าเป็นสาวใต้แท้ ได้ข้อมูลมาว่า เธอเรียนจบทั้งระดับปริญญาตรีและปริญาโทสาขาพืชศาสตร์ มาจากคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ มีพื้นเพเป็นชาวตำบลวังพา อำเภอคลองหอยโข่ง(?) จังหวัดสงขลา ใครที่เป็นแฟนหรือเคยอ่านนิตยสาร “บางกอก” เมื่อช่วง 40-50 ปีก่อน คงเคยเห็นชื่อนิยายประเภทหนังไทยบู้ล้างผลาญชื่อ “ถล่มวังพา” มาบ้างเป็นแน่ ตอนนั้นเป็นเรื่องรักบู้เรื่องหนึ่งที่ดังมาก                  ไปเสียไกล ก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแต่ได้พบเห็นอะไรดีๆที่น่าชื่นใจในประเทศที่ไม่ค่อยมีเรื่องให้น่าชื่นใจบ่อยนัก เลยอยากนำมายอกมาเล่าแก่กันให้พอมีความหวังเรื่อง “ปฏิรูป” กันขึ้นบ้างก็เท่านั้นจริงๆ!                  ลืมบอกไปอย่างหนึ่งว่า สาวใต้ผิวสีแทนจิตใจงามที่ชื่อน้อง “พิมพ์ภิลา” (ชื่อเท่มากคงเป็นเพราะเสมียนอำเภอเขียนผิดตอนไปแจ้งชื่อขึ้นทะเบียนเป็นแน่!)คนนี้เธอยังโสดสนิททีเดียวเชียวหละ!!!