เมื่อท้องสนามหลวงถูกทำให้เป็นพื้นที่ต่อสู้ทางการเมือง หมุดคณะราษฎรถูกนำไปขยายผลให้เกิดกิจกรรมทางการเมืองต่างๆ แต่ถึงกระนั้น ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของท้องสนามหลวง เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องตระหนัก บทบรรณาธิการสยามรัฐ ขอยกเนื้อหาเรื่อง “รอยทาง...สนามหลวง” เพื่อทราบความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้ จากคอลัมน์ “ลานบ้านกลางเมือง” โดย บูรพา โชติช่วง เผยแพร่ในสยามรัฐออนไลน์ วันที่ 12 กันยายน 2563 มานำเสนอ ต่อเนื่องจากฉบับที่แล้วดังนี้ “...หลังจากเสด็จพระราชดำเนินเยือนยุโรป ทรงนำสิ่งทอดพระเนตรจากตะวันตกมาปรับใช้ในการพัฒนาประเทศสยามให้มีความเจริญมากยิ่งขึ้น นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของท้องสนามหลวง ในฐานะส่วนหนึ่งของการสรรสร้างสภาพแวดล้อมของพระนครด้วยบรรยากาศแห่งความศิวิไลซ์และทันสมัยเช่นเดียวกับมหานครในชาติตะวันตก ปรับปรุงพื้นที่ท้องสนามหลวง ถมดิน เกลี่ยให้เรียบร้อยเสมอกัน ทำรั้วรอบสนามเป็นขอบเขต ใช้เวลาปรับปรุง 6 เดือน จึงแล้วเสร็จ พื้นที่ท้องสนามหลวงกว้างขึ้น จากรูปลักษณ์ที่เคยมีลักษณะคล้ายผีเสื้อ ให้เป็นรูปวงรีเป็นมุมโค้งมนสมมาตรกันทั้ง 4 ด้าน ปลูกต้นมะขามเรียงคู่เป็น 2 แถวรายรอบเพื่อความร่มรื่นและสวยงาม ทั้งโปรดเกล้าฯ ให้ใช้เป็นที่ประกอบพิธีต่างๆ เช่น การฉลองพระนครครบ 100 ปี งานฉลองเมื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับจากยุโรป พ.ศ. 2440 ครั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากจะโปรดเกล้าฯ ให้ใช้ประกอบพระราชพิธีต่างๆ แล้ว ยังให้ใช้เป็นสนามแข่งม้า และสนามกอล์ฟอีกด้วย ล่วงมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้มีการใช้ท้องสนามหลวงเป็นพื้นที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญๆ ของประเทศ เช่น พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ, สมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี, พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 5 ธันวาคม 2530, พระราชพิธีกาญจนาภิเษก พ.ศ. 2539 รวมทั้งงานพระเมรุมาศและพระเมรุของพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นสมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป มาแล้ว 6 ครั้ง นอกจากนี้ ท้องสนามหลวงยังเคยถูกใช้จัดกิจกรรมต่างๆ ของสาธารณชน เช่น ตลาดนัด การปราศรัยใหญ่หาเสียงเลือกตั้งในแต่ละครั้ง หรือชุมนุมทางการเมืองต่างๆ รวมถึงใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม กีฬา การละเล่นต่างๆ และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนทั่วไป อย่างไรก็ดีในช่วงปี พ.ศ. 2553 กรุงเทพมหานครได้ทำการปรับปรุงภูมิทัศน์ของสนามหลวง จากเดิมที่เคยเสื่อมโทรมให้ดีขึ้น เปิดใช้พื้นที่อย่างเป็นทางการ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554 แต่ครั้งนี้ไม่อนุญาตให้ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางการเมืองใดๆ เหมือนแต่ก่อน ทั้งนี้เพื่อสงวนท้องสนามหลวงไว้สำหรับประกอบพระราชพิธีเท่านั้น และเพื่อคงความสวยงามของท้องสนามหลวง โดยผู้ที่ต้องการขอใช้พื้นที่ทำกิจกรรมต้องทำเรื่องขอจากกรุงเทพมหานครทุกครั้ง ปัจจุบันท้องสนามหลวงมีเนื้อที่ 74 ไร่ 63 ตารางวา ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ จากกรมศิลปากรมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 นี่เป็นเพียงสังเขป รอยทาง...สนามหลวง...”