หลังจากที่ตั้งตาเฝ้ารอคอยกันมาพักใหญ่ว่า การเลือกตั้ง "ระดับท้องถิ่น" จะเกิดขึ้นเมื่อใด ล่าสุดมีความชัดเจนออกมาจาก รัฐบาลแล้วว่า ในช่วงวันหยุดยาวเดือนธันวาคมนี้ น่าจะเหมาะสมที่สุด " วิษณุ เครืองาม"รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าต้องพิจารณาความพร้อม 4 ประการ คือ 1.เรื่องงบประมาณ 2.เจ้าหน้าที่กกต. 3.กฎระเบียบและประกาศต่างๆ ขณะนี้กำลังทยอยประกาศแล้ว และ4.สถานการณ์โควิด-19 ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ต้องนำมาประกอบการจัดหน่วยเลือกตั้ง "ฉะนั้น ความพร้อมจะเกิดขึ้นในเดือน ธ.ค. และโดยปกติการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่ว่าประเภทใดก็ตามจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ โดยในเดือน ธ.ค.จะมีวันอาทิตย์ที่ 6, 13, 20 และ 27 ธ.ค.เราคิดว่าวันที่ 6 ธ.ค.ใกล้กับวันคล้ายวันพระราชสมภพของรัชกาลที่ 9 ที่มีกิจกรรมหลายอย่าง ส่วนวันที่ 27 ธ.ค.ใกล้ปลายปีมากเกินไป ไม่อยู่ในบรรยากาศที่จะหาเสียง ดังนั้น วันที่เหมาะสมคือ วันที่ 13 ธ.ค. หรือ วันที่ 20 ธ.ค." รองนายกฯวิษณุ เปิดเผยกับสื่อเมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมา ในวันเดียวกันยังมีความชัดเจนจาก "บิ๊กป๊อก"พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่าได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ไปหารือกับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคาดว่าต้นเดือนตุลาคมนี้จะได้ข้อสรุป และจะนำข้อสรุปให้ครม.พิจารณาทันที เมื่อการเมือง "สนามเล็ก" ระดับท้องถิ่น แต่มีความสำคัญ ต่อทุกพรรคการเมืองกำลังจะเปิดฉากขึ้น พร้อมกันนี้ ยังต้องไม่ลืมว่า "สนามกทม." เองก็เริ่มขยับแล้วเช่นกัน โดยเฉพาะ "พรรคพลังประชารัฐ" เองในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล จะต้องอาศัยการเมืองทั้งสนามเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ทั่วประเทศ และ สนามกทม. ในการเลือกคตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนใหม่ เพื่อ "หยั่งกระแส" เช็คความนิยม ของรัฐบาลว่าผลออกมาเป็นบวก หรือลบ อย่างไร โดยเฉพาะหลังจากที่ "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สวมบท "ซานต้าคลอส" เปิดมหกรรมแจกครั้งใหญ่ เทเม็ดเงินลงไปในโครงการต่างๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นั้นจะได้ผลตอบรับจากพี่น้องประชาชนอย่างไร แน่นอนว่าเมื่อสนามเลือกตั้งระดับท้องถิ่น กำลังจะเปิดขึ้น ทุกสายตาจึงต้องโฟกัสไปยัง "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เองนั้นจะเปิดเกมบุกอย่างไร เพราะดูเหมือนว่ารัฐบาลมีความพร้อม และมั่นใจมากพอ ไม่เช่นนั้นคงไม่ยอมให้ไฟเขียวเปิดสนามเลือกตั้งระดับท้องถิ่นขึ้นมาอย่างแน่นอน "ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผมและพรรคก็พร้อม ส่วนจะเป็นการเลือกตั้งประเภทใดก่อนนั้น ผมไม่ทราบ รมว.มหาดไทยว่าอย่างไร ก็ว่าอย่างนั้นในส่วนของพรรคพลังประชารัฐพร้อมไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งประเภทใดก่อน เราพร้อมที่จะส่งผู้สมัคร" พล.อ.ประวิตร บอกกับผู้สื่อข่าว อย่างมั่นใจ แต่ไม่ตอบคำถามว่าเป็นคนทาบทาม "บิ๊กแป๊ะ"พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ที่กำลังจะเกษียณ ในวันที่ 30 กันยายนนี้ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ด้วยหรือไม่ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ และการเคลื่อนไหวต่อต้านเผด็จการ ขับไล่รัฐบาล จาก "ม็อบประชาชนปลดแอก" หรือแม้แต่พรรคการเมืองฝ่ายค้านในสภาฯ อาจไม่ใช่ "ปัจจัย" ที่รัฐบาล จะยกมาเป็น "เงื่อนไข" หลักๆในการเดินหน้า เพื่ออยู่ต่อจนครบวาระ เพราะในความเป็นจริงแล้ว รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ เองได้เล่นทั้งบทอ่อน บทแข็ง สลับกันไปมาตามสถานการณ์ เพื่อประคับประคองรัฐบาล ให้อยู่ครบวาระ ให้ได้ตลอดรอดฝั่ง ภายใต้กลยุทธ์ "กินทีละคำ" รุกทีละเปลาะ ต่างหาก !