เรื่องที่อดีตนักการเมืองวิจารณ์ติติงรัฐบาลนี้มากเรื่องหนึ่งคือเรื่องยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ 20 ปี ทำนองว่า การกำหนดยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศไว้ในรัฐธรรมนูญ เหมือนเป็นการบังคับรัฐบาลที่จะมาจากการเลือกตั้งขาดอิสระในการบริหารประเทศไป และว่าการกำหนดแผนล่วงหน้ายี่สิบปีไม่สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วมาก แผนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ผ่านไปเพียงสี่ห้าปีอาจจะไม่สอดคล้องกับสานการณ์โลกแล้ว
ประเด็นเหล่านี้ ถ้าติดตามการบริหารบ้านเมืองไทยของรัฐบาลไทยทุกรัฐบาลในอดีต ก็จะเข้าใจว่า มันเป็นเพียงบทเจรจาของละครเท่านั้น
หลักการสำคัญ ๆ ในยุทธศาสตร์ชาติที่กำหนดในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ก็เป็นถ้อยคำงดงามตามทฤษฎี ไปย้อนดูถ้อยแถลงนโยบายตอนจัดตั้งรัฐบาลอดีตทุกรัฐบาลดูเถิด พวกเขาก็ใช้ถ้อยคำงดงามเป็นไปตามหลักทฤษฎีการพัฒนาแนวทุนนยิมเสรีกันทั้งนั้น
แต่การปฏิบัติจริง กลับมีความแตกต่างออกไปมาก
แนวทางปฏิรูปพัฒนาประเทศยี่สิบปีในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เราก็มิได้คาดหวังเต็มที่ว่า จะมีผลทา
การปฏิบัติตามถ้อยคำที่เขียนไว้ได้ทั้งหมด
และเมื่อมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง เราก็คาดว่าแนวนโยบายการพัฒนาประเทศก็จะยังแถลงด้วยถ้อยคำงดงามตามหลักทฤษฎีการพัฒนาแนวทุนนิยมเสรีเช่นเดียวกัน
จึงไม่คิดว่า ถ้อยคำในรัฐธรรมนูญจะไปผูกมัด ตีกรอบการทำงานของรัฐบาลในอนาคตได้
ส่วนประเด็นปัญหาที่ว่า ถ้าสภาพแวดล้อมโลกทางเศรษฐกิจ-สังคมโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้ยุทธศาสตร์พัฒนายี่สิบปีนั้นจะกลายเป็นพิษไป ก็ไม่น่าห่วง เพราะถ้าหากเกิดภาะโลกเป็นอย่างนั้นจริงขึ้นมา คนไทยก็คงไม่โง่พอที่จะกอดของไว้ไม่ปรับปรุง ด้วยเหตุผลว่ารัฐธรรมนูญเขียนไว้
เพื่อให้เห็นตัวอย่าว่ถ้อยแถลงของทุกรัฐลบาลนั้นงดงามจริง จะยกตัวอย่างเนื้อหาบางส่วนของถ้อยแถลงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่บทบรรณาธิการสยามรัฐ วันพฤหัสบดี 4 ก.ค พ.ศ. 2556 เสนอไว้ ว่า “วันที่ 3 ก.ค นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ระดับปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้บริหารหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ร่วมประกาศเจตนารมณ์การปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารประเทศเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นถือเป็นหน้าที่สำคัญของคณะรัฐมนตรี และข้าราชการทุกคน
นายกรัฐมนตรี บอกว่า ข้าราชการฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำ ต้องยึดแนวทางการต่อต้านคอร์รัปชั่นเป็นปัจจัยหลักในการบริหารบ้านเมืองให้ก้าวหน้าและสัมฤทธิ์ผล โดยรัฐบาลยึดหลักธรรมาภิบาลในการบริหารบ้านเมือง เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมให้ทุกฝ่ายของสังคมเข้ามาร่วมตรวจสอบให้เกิดความมั่นใจและเดินหน้าพัฒนาประเทศไทยไปด้วยกัน...
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ารัฐบาลจะสร้างมิติใหม่ให้เป็น ครม.ที่ยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรม และเสริมสร้างภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งนี้ จะได้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างจริงจังต่อผู้กระทำการทุจริตโดยไม่ละเว้น”
เรื่องนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ ทุกรัฐบาลต้องแถลงนโยบายเช่นนี้