"บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี บอกชัดว่า ไม่จำเป็นต้อง "ตั้งวอร์รูม" เพื่อรับมือกับการชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอก และพันธมิตรแนวร่วม ที่นัดหมายเคลื่อนขบวนในวันที่ 19ก.ย.นี้ก็ตาม
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกคนย่อมรู้ดีว่า ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา "รัฐบาล" ภายใต้การดูแลของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่มีใคร "นิ่งนอนใจ" หรือมองทุกอย่างว่าเป็นเรื่องง่ายดาย ไม่มีอะไรในกอไผ่
เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่มีความเคลื่อนไหวจาก ฝ่ายตำรวจในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐ มีอำนาจและหน้าที่ตามพ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ ที่ "ขยับ" กันทั้ง ในกทม.และตามจังหวัดต่างๆกันอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการ "สกัด" การเคลื่อนย้ายมวลชนจากต่างจังหวัด เข้ามาสมทบกับม็อบนักศึกษาและกลุ่มประชาชนปลดแอก ที่ในวันที่ 19ก.ย.นี้
การระดมกำลังพล 9พันนายทั่วประเทศเพื่อรับมือกับม็อบใหญ่ ครั้งนี้เป็นเพียง ส่วนหนึ่งของการแผนภารกิจของฝ่ายความมั่นคง ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหน้าเท่านั้น เนื่องจากที่ได้มีการดำเนินการกันมาก่อนหน้านี้ คือการตั้งด่านสกัดมวลชน ตามจังหวัดต่างๆ เนื่องจากยังมีการ "ล็อคแกนนำ" ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มนักศึกษา ประชาชนระลอกแล้วระลอกเล่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ไปค้นบ้าน "ไผ่ ดาวดิน" ที่จ.ขอนแก่น ไปพร้อมๆกับการ "บล็อค"แกนนำในกทม. สแกนทุกกลุ่ม ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวชุมนุม
อย่างไรก็ดีมีรายงานว่า "มือทำงาน"ของฝ่ายรัฐบาลเองได้ประเมินความเคลื่อนไหวของม็อบ 19กันยา เอาไว้ว่า เมื่อมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประกาศห้ามใช้พื้นที่ไปเรียบร้อยแล้ว เป้าหมายของกลุ่มผู้ชุมนุมจะพุ่งมาที่ "ทำเนียบรัฐบาล" เพื่อหวังกดดัน นายกรัฐมนตรี บุกมาถึงที่ทำงานของบิ๊กตู่ ในคืนวันที่ 19 ก.ย. ท่ามกลางการวางกำลังอย่างแน่นหนา ของเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในทำเนียบรัฐบาลเอง
นอกจากนี้ยังประเมินว่าการชุมนุมอาจยืดเยื้อไปจนถึงวันที่ 23 ก.ย.เพื่อรอรับฟังผลสรุปของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่รัฐสภา
แต่นั่นหมายความว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมเองต้องมีความพร้อม ทั้ง "กำลังมวลชน" ไปจนถึงการแผนการเล่นที่พร้อมปรับไปสู่การยกระดับ "ความรุนแรง" ปรับไปตามสถานการณ์ เพื่อกดดันให้ "กองทัพ" ออกแอคชั่น หลังจากที่กองทัพเองพยายาม อยู่ในความสงบ อยู่ในที่ตั้ง !
มวลชนที่จะมีการระดมกันมา เพื่อสมทบกับนักเรียน นักศึกษาในกรุงเทพฯ คือกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมาจากรอบๆปริมณฑลเป็นหลัก เนื่องจากเสื้อแดงจากต่างจังหวัดไม่สามารถ "ขยับ" ออกจากที่ตั้งได้
โมเดลที่ฝ่ายความมั่นคง กำลังจับตามอง ในการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษา และประชาชน ในวันที่ 19ก.ย.นี้ กำลังใกล้เคียงกับการชุมนุมของ "นปช."ที่เคยเขย่ารัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาก่อน แต่ความแตกต่างระหว่างม็อบนักศึกษา กับคนเสื้อแดง กลุ่มนปช.ในปีที่ 2553 ยังมีเงื่อนไขและปัจจัย ที่กลุ่มนักศึกษายังขาดมวลชนมหาศาล และความรุนแรง หากแต่ที่น่าวิตกคือการใช้บริกาารของ "มือที่สาม"เพื่อทำให้เหตุการณ์ถูกดึงไปสู่ความรุนแรง จนกองทัพต้องขยับออกมา !