หลังจากที่ปล่อยให้อึมครึม จมอยู่กับ "กระแสข่าว" กันมาพักใหญ่ ว่า "บิ๊กแป๊ะ"พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ที่จะเกษียณอายุราชการลงในวันที่ 30 ก.ย.นี้ จะมาเป็น "แคนดิเดต" ผู้ท้าชิงเก้าอี้ "ผู้ว่าฯกทม." หรือไม่ ?
ล่าสุดมีความชัดเจนออกมาจากปากของ บิ๊กแป๊ะ เองแล้วว่า "ใช่" !
โดยเมื่อวันที่ 3 ก.ย.63ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ เข้าร่วมงานประชุมใหญ่ คณะกรรมการติดตามและบริหารงานตำรวจในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ( กต.ตร.กทม.) ประจำปี 2563 รวมทั้งจัดพิธีการแสดงมุทิตาจิตให้กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์
ในงานนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้ยืนยันแล้วว่า สนามต่อไป หลังเกษียณอายุจากเก้าอี้ผบ.ตร.ไปแล้วคือการลุยการเมืองสนามเล็ก ที่ไม่ธรรมดา อย่าง การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นั่นเอง
ความจริงแล้วก่อนหน้านี้ "ทีมข่าวคิดลึก" เคยจั่วหัวมาแล้ว ว่าบิ๊กแป๊ะ จะปรับโหมด ลงไปสู้ศึกผู้ว่าฯกทม. อย่างแน่นอน และที่สำคัญไปกว่านั้น หากบิ๊กแป๊ะ ไม่มั่นใจ ว่าจะชนะในสนามนี้ ก็คงไม่ลงมาเล่น !
อย่างไรก็ดีการเมืองสนามเล็ก อย่างกทม.นั้นถูกจับตามาโดยตลอดว่า อาจเป็นสนามเลือกตั้งสุดท้ายที่จะมีขึ้น เมื่อรัฐบาลไฟเขียวให้มีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น กำหนดวันเวลาที่ชัดเจน และเมื่อการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นจบลง จะปิดท้ายกันที่การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เป็นสนามสุดท้าย
การประกาศตัวของบิ๊กแป๊ะ ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. รอบนี้ได้ถูกโยงใยกันต่อไปว่า "พรรคพลังประชารัฐ" จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นกองหนุนสำคัญ ด้วยหรือไม่ ?
ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจที่ "อนุชา นาคาศัย" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ต้องตอบคำถามสื่อ ว่า พรรคพลังประชารัฐ ชวนมาลงสมัครด้วยหรือไม่ ว่า "ไม่ตอบ" และในส่วนของพรรคเองก็ยังไม่ได้คุยกันถึงเรื่องนี้
แต่การที่ไม่ตอบ ก็ไม่ได้หมายความว่า "ปฏิเสธ" และก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวสะพัดมาเป็นระยะว่า พรรคพลังประชารัฐ หมายตา พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะให้เข้ามาทำหน้าที่ผู้ว่าฯกทม.ต่อจาก "พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง" ผู้ว่าฯกทม.คนปัจจุบัน
การชงชื่อ บิ๊กแป๊ะ ในฐานะแคนดิเดตผู้ท้าชิงผู้ว่าฯกทม. ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการประกาศ "จองสนาม" ของพลังประชารัฐแล้ว อีกนัยยะหนึ่งยังเป็นการ ตัดแคนดิเดตรายอื่นที่กลุ่มอำนาจในพลังประชารัฐ อย่าง "ณัฐฎพล ทีปสุวรรณ" รมว.ศึกษาฯ และรองหัวหน้าพรรค เองก็เคยมีข่าวว่าต้องการผลักดัน "ทยา ทีปสุวรรณ" ภริยา ให้ลงสนามกทม. เช่นกัน
การต่อสู้ทางการเมืองในสนามกทม. ต้องถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพระแท้จริงแล้ว ทุกฝ่ายทุกพรรค ที่หวังจะเข้ามาลุยในสนามแห่งนี้ยังต้องเจอกับ "ปัจจัย" หลายด้าน ที่จะแปรเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ทุกอย่างสามารถ "สวิง" ได้ตลอดเวลา ทั้งอารมณ์ ความรู้สึกของคนกรุงเทพฯเอง ที่จะเชื่อมโยงและสัมพันธ์กับ "การเมืองสนามใหญ่" คือการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล
วันนี้เมื่อบิ๊กแป๊ะ ประกาศตัว แรงกระเพื่อมทางการเมือง จะเริ่มขยับตามมา โดยไม่ต้องคาดเดา ไม่ว่าจะเป็น "พรรคเพื่อไทย"เองที่ไม่สามารถ หาคนมาลงสนามนี้ได้ เมื่อ "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" อดีตแกนนำพรรค ประกาศตัวขอทำการเมือง เป็นอิสระ และจะลงสมัครในนามอิสระ
ขณะที่พรรคก้าวไกลเอง แม้วันนี้จะได้ใจจากคนรุ่นใหม่ แต่เอาเข้าจริงแล้ว ก็กลับไม่มีตัวผู้สมัคร ที่โดดเด่น มากพอที่จะทำให้ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" บิ๊กตัวจริง วางใจได้ว่าจะยึดเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. ด้วยซ้ำ !