แม้จะยังเร็วเกินไปที่จะประเมินว่า สถานการณ์วันที่ 19 กันยายน จะส่อเค้าเป็นมรสุมใหญ่ เป็นสึนามิถาโถมประเทศไทยหรือเพียงสายลมพัดผ่าน โดยจะต้องดูว่า ก่อนหน้าดีเดย์นั้น จะมีประเด็นอะไรที่มาโหมไฟการเมืองให้คุกรุ่น เช่น กรณีการจัดสรรงบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำจำนวน 2 ลำจากจีน วงเงิน 22,500 ล้านบาท ที่แม้กองทัพเรือจะมีการชี้แจงรายละเอียดและความจำเป็นแล้วก็ตาม พล.ร.ท.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ กล่าวว่า การจัดหาเรือดำน้ำอีก 2 ลำ งบประมาณ 2.25 หมื่นล้านบาท เทียบไม่ได้กับความคุ้มค่า ในการปกป้องผลประโยชน์ในทรัพยากรทางทะเลของไทยที่มีกว่า 24 ล้านล้านบาท คิดเป็นแค่ 0.093 % เท่านั้น ด้าน พล.ร.ท.ธีรกุล กาญจนะ ปลัดบัญชีทหารเรือ ชี้แจงว่า เป็นการตั้งงบแบบผูกพัน ไม่ใช่การตั้งงบใหม่ ซึ่งกองทัพเรือ เข้าใจถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งกองทัพเรือ ได้ขอทางการจีน ชะลอการจ่ายงวดปี 63 ไปแล้ว 3,375 ล้านบาท และนำเงินส่วนนี้ส่งคืนให้รัฐบาล ผ่าน พ.ร.บ. โอนงบ 4,130 ล้านบาท คิดเป็น 8.78 % ทำให้ต้องขยับกรอบชำระจากกรอบ 63-69 เป็นถึงปี 70 ซึ่งที่ผ่านมา ทร. ก็ตั้งงบโดยคำนึงถึงความประหยัดเป็นหลัก กระนั้น ก็ยังเกิดปฏิกิริยาจากฝ่ายการเมืองในการตั้ข้อสังเกตควมเหมาะสมในห้วงเวลาที่มีปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาปากท้องของประชาชน โดยเฉพาะในห้วงที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชน ที่เป็นนักเรียนนักศึกษา กรณีดังกล่าวย่อมตกเป็นข้อสังเกต และถูกหยิบยกขึ้นมาโจมตี ปลุกเร้าให้เกิดกระแสต่อต้าน โดยเฉพาะภาพของการระดมคนมาชุมนุมยึดพื้นที่ของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ 1 ความฝัน ขีดเส้นให้นายกฯยุบสภาฯ อย่างไรก็ดี เมื่อหันมามองพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อม็อบประชาชนปลดแอกรุกคืบ ได้ฝ่าวงล้อมของมรสุมต่างๆ ลงพื้นที่ประชุมครม.สัญจร ระหว่างวันที่ 24-25 สิงหาคม 2563 ที่จ.ระยอง มีภาพของการเปิดรับฟังความคิดเห็นของตัวแทนนักเรียน นักศึกษา “เขาเสนอแนวทางอันเป็นประโยชน์ในทางที่สร้างสรรค์กับรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องของอาชีพรายได้ สิ่งแวดล้อม ต่างๆ เหล่านี้ ด้านการศึกษาอยากให้มีการปรับแก้อะไรบ้าง ผมก็ได้รับข้อสังเกต ข้อเสนอแนะของนักศึกษาทั้งหมดมา หลายอย่างอยู่ในขั้นตอนที่รัฐบาลดำเนินการอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ ยังแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของนิสิตนักศึกษาว่า เป็นวิถีปกติตามระบอบประชาธิปไตย ทุกคนต้องช่วยกันทำงาน สร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ดีเพื่อรองรับสถานการณ์การเติบโตในอนาคต ฉะนั้น สิ่งที่ทำมาแล้วที่มีผลสัมฤทธิ์มากมายหลายประการ ขอความกรุณาดูทั้งสองทางด้วย “ผมไม่ได้ห้ามว่าอย่าไปฟังเขา แต่ผมเองถูกเขาห้ามว่าอย่ามาฟัง อันนี้ไม่ใช่วิถีทาง แต่ต้องฟังทั้งสองฝ่ายด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่คำบิดเบือน อย่าให้มีการแตกความสามัคคีในประชาชนเด็ดขาด วันนี้ต้องช่วยกันลดผลกระทบเหล่านี้ด้วย เพราะถูกจับตามองหลายอย่างหลายส่วนทั้งในประเทศและต่างประเทศ” เราเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ต้องแสดงความจริงใจในการรับฟังความเห็นของนักศึกษาเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดไทม์ไลน์การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ชัดเจน และย้ำอีกครั้งให้เร่งประกาศจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นเพื่อเปิดรูระบายทางการเมือง จนกว่ารัฐบาลจะได้ยิน