ชัชวาลล์ คงอุดม
เรียน ท่านบรรณาธิการหนังสือพิมพ์สยามรัฐ
คอลัมน์ คุณชัช เตาปูน ตอบจดหมาย
เวลานี้ปัญหาปากท้องเป็นเรื่องใหญ่สำคัญมาก ซึ่งพี่น้องประชาชนคนไทยกำลังเผชิญกับภาวะค่าครองชีพที่สูง ข้าวปลาอาหารปัจจุบันได้ถีบตัวสูงขึ้น ลำพังกระทรวงพาณิชย์แก้ไขปัญหาด้วยการใช้นโยบายธงฟ้าราคาประหยัด เอาสินค้าบริการที่ราคาถูกมาจำหน่าย หรือแม้แต่ร้านอาหารธงฟ้า ก็ยังไม่ตอบโจทย์กับการแก้ไขปัญหาของประชาชนได้
สิ่งที่อยากจะเห็นก็คือ ข้าวแกงหรือก๋วยเตี๋ยวราคาถูกที่สะท้อนความเป็นจริงและตรงกับรายได้ของพี่น้องประชาชนมีออกมาจำหน่ายอย่างกว้างขวางมากกว่า ซึ่งจะตรงกับวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชนหาเช้ากินค่ำ และเป็นอะไรใกล้ตัวสำหรับคนมีอาชีพรากหญ้า หรือผู้ใช้แรงงาน ซึ่งอยากให้กระทรวงพาณิชย์มีการแยกกลุ่มในการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพที่ชัดเจน โดยให้ตรงและสอดคล้องกับวิถีชีวิตคนจนและคนชั้นกลางมากขึ้น เพราะบางครั้งสินค้าที่นำออกมาจำหน่ายในราคาถูก ก็เป็นการนำสินค้ามาลดให้กลุ่มคนอีกชั้นหนึ่งที่มีกำลังซื้อนำไปบริโภคหรือตุนเก็บเอาไว้ใช้ ซึ่งประโยชน์กับคนกลุ่มนี้มากกว่า
หากแต่คนจนๆ จะบริโภคได้ก็คงมีไม่กี่อย่าง ส่วนใหญ่ก็เป็นเครื่องปรุงรส น้ำปลา น้ำตาล ซึ่งก็ช่วยลดภาระค่าครองชีพไปเพียงไม่กี่สตางค์เท่านั้นเอง แทบจะไม่ได้เห็นน้ำเห็นเนื้อกันเลย ยิ่งอยู่กันครอบครัวตัวคนเดียวหรือ 1-2 คนก็ไม่คุ้ม ยังสู้หาซื้อกินจากนอกบ้านยังคุ้มเสียกว่าอีก เพราะอย่างน้อยไม่เสียค่าก๊าซหุงต้มและน้ำมันทอดผักทอดปลาอีก
เพราะฉะนั้น สิ่งที่อยากให้กระทรวงพาณิชย์ผลักดันให้มีก็คือการลงทุนจัดตั้งร้านค้าอาหารธงฟ้าจริงๆ ราคาข้าวแกงจานละ 25-30 บาท เข้าไปตั้งจำหน่ายในสถานที่ที่เป็นชุมชนแออัด หรือตามสถานที่ที่มีพนักงานหรือสาวโรงงาน ตลอดจนคนวัยทำงานที่หาเช้ากินค่ำทั่วทั้ง กทม. ซึ่งก็จะเป็นการสร้างงานในอีกทางหนึ่งด้วย โดยรัฐยังได้เอาเงินลงไปกระจายจ้างอาสาสมัครพี่น้องประชาชนที่สนใจจะเข้ามาเป็นแม่ครัวมาทำกับบ้าน และก็ยังมีการจ้างพนักงานเป็นคนขาย โดยกระทรวงพาณิชย์อาจจะคัดแม่ครัวดีๆมาทำอาหารพอกินได้ มาทำเมนูอาหารในแต่ละวัน เพื่อจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชนในราคาถูกและช่วยลดภาระค่าครองชีพของมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้น้อย รวมถึงคนหาเช้ากินค่ำที่มีภาระค่าใช้จ่ายสูงทางบ้านอีกด้วย โดยอาจจะจำหน่ายเฉพาะเวลากลางวันมื้อเดียวก็ยังดี อย่างน้อยๆ ก็ยังช่วยลดภาระค่าครองชีพของพี่น้องประชาชนลงไปได้เปราะหนึ่ง แม้จะไม่มากก็ตาม
วิธีการนี้น่าจะตรงและโดนพี่น้องประชาชนมากกว่าวิธีการนำสินค้าอาหารสด หรืออาหารสำเร็จรูป รวมไปถึงนำผักสดผลไม้ลดราคาถูกออกมาจำหน่ายเท่านั้น ทั้งที่วิถีชีวิตของมนุษย์เงินเดือนหรือผู้ใช้แรงงานน่าจะพุ่งเป้าไปเรื่องของอาหารทำสำเร็จรูปมื้อเดียวจบๆกันไปเสียมากกว่า โดยเฉพาะอาหารมื้อกลางวันเป็นเรื่องที่น่าจะดำเนินการได้ง่ายและทำได้ดีที่สุดในชีวิตประจำวัน
เพราะยังไงๆ แล้วการจะไปควบคุมราคาสินค้า หรืออาหารปรุงสำเร็จรูปในเวลานี้ เป็นเรื่องแก้ไขได้ลำบาก กระทรวงพาณิชย์เคยเข้าไปควบคุมราคาอาหารปรุงสำเร็จรูปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตามห้างสรรพสินค้า หรือตลาดสด ก็ยังไม่สำเร็จเลย ไม่รู้บวกต้นทุนอะไรเข้าไป ทั้งที่ราคาน้ำมัน ก็ลดลง ค่าใช้จ่ายขนส่งต่างๆ ก็น่าจะถูกลง แต่อาหารสำเร็จรูปหรืออาหารปรุงสุกยังแพงอยู่ข้าวแกง หรือก๋วยเตี๋ยวเอย เดี๋ยวนี้จานนึง 40-45 แล้ว แล้วนับประสาอะไรพนักงานกินเงินเดือนแค่ 10,000-15,000 บาท หรือกรรมการค่าแรงวันละ300 บาท จะไปยืนหยัดรับประทานได้ไหว กินข้าว 3 มิ้อก็ปาเข้าไปครึ่งเดือนของเงินเดือนแล้ว ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่าเดินทางไปกลับทำงาน และค่าใช้จ่ายจิปาถะที่เป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายชีวิตประจำวันทั้งสบู่ ยาสีฟัน หรือยารักษาโรคอีก ลำพังตัวคนเดียวก็คงแย่อยู่แล้ว ยิ่งหากมีลูกเมียด้วยแล้ว คงไม่ต้องพูดถึงกันเลย
เพราะฉะนั้นอยากให้กระทรวงพาณิชย์ลงลึกไปถึงรายละเอียดปลีกย่อยของคำว่า ค่าครองชีพ เสียหน่อย และมีการวิเคราะห์และจัดการกับปัญหาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และสอดคล้องกับข้อเท็จจริงของปัญหาค่าครองชีพคนในกรุงเทพฯ และคนต่างจังหวัดมากขึ้นกว่านี้ เพราะลำพังนโยบายธงฟ้าราคาประหยัดที่ดำเนินการอยู่นี้ยังไม่สามารถจะเข้าไปเยียวยา หรือดูแลลดภาระค่า
ครองชีพคนจนคนมีรายได้น้อย หรือพี่น้องประชาชนหาเช้ากินค่ำอย่างแท้จริงเท่าใดนักคงจะขอฝากเป็นการบ้านให้กับรัฐบาลได้โปรดผลักดันมาตรการลดค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนให้ตรงกับความต้องการอย่างแท้จริงและตรงกับกลุ่มเป้าหมายด้วยเถอะครับ จักเป็นพระคุณอย่างสูง
ขอบพระคุณอย่างสูง
จาก นายพลเมืองรัฐคนหนึ่ง
เรียน ผู้ใช้นามแฝง
"นายพลเมืองรัฐคนหนึ่ง"
ขออนุญาตตอบจม.ของคุณแทนนะครับ
เข้าใจว่า ทางรัฐบาลก็คงจะพยายามหาทางบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในหลายๆจุด ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการเข็นมาตรการอะไรต่างๆ ออกมาช่วยพี่น้องประชาชนผู้มีรายได้น้อยเพื่อไม่ให้เป็นภาระค่าครองชีพสูงเวลานี้ไปแล้ว อย่างเช่นที่ผ่านมา ก็มีสินเชื่อประชารัฐที่จะปล่อยสินเชื่อผ่านธนาคารออมสิน หรือแม้แต่นโยบายการพักชำระหนี้ โดยส่งแต่ดอกเบี้ยก็ดี และก็ยังมีอีกหลายๆ โครงการกำลังจะออกมา ก็เห็นทางรัฐบาลกำลังจะออกมา สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนแต่เป็นเรื่องดี ที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชนครับ
และล่าสุดทางกระทรวงพาณิชย์ก็ร่วมมือกับทางห้างค้าส่งค้าปลีกสมัยใหม่ ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เกต ร้านสะดวกซื้อ 13,500 สาขาทั่วประเทศ นำสินค้ากว่า 10,000 รายการ มาร่วมรายการและลดราคาจำหน่ายสินค้าเป็นพิเศษประมาณ 15-80 % คือระหว่างวันที่ 18-25 ส.ค. นี้ ก็น่าจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพพี่น้องประชาชนลงไปได้ระดับหนึ่ง
ส่วนข้อเสนอแนะของคุณที่เขียนมานั้นก็เป็นเรื่องดีครับ ผมคงไม่ออกความเห็นดีกว่า เพียงแต่นำจดหมายของคุณลงผ่านต่อไปให้กระทรวงพาณิชย์ที่ดูแลรับผิดชอบได้พิจารณารับฟังเสียงสะท้อนของคุณเองแล้วกันดีกว่านะครับ
ด้วยรักและนับถือ
เจริญชัย อุดมพาณิชวงศ์
"ที่ผ่านมา ก็มีสินเชื่อประชารัฐที่จะปล่อยสินเชื่อผ่านธนาคารออมสิน หรือแม้แต่นโยบายการพักชำระหนี้ โดยส่งแต่ดอกเบี้ยก็ดี และก็ยังมีอีกหลายๆ โครงการกำลังจะออกมา ก็เห็นทางรัฐบาลกำลังจะออกมา สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเรื่องดี ที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชนครับ"-