การออกมาประกาศ จาก “กลุ่มไทยภักดี” เชิญชวนพี่น้อง ประชาชนมาร่วมกันทำกิจกรรม แสดงพลังเคลื่อนไหว เพื่อชูจุดยืน “ปกป้องสถาบัน” ในวันที่ 30 ส.ค.นี้ คือแอคชั่นทางการเมือง นอกสภาผู้แทนราษฎร ที่ต้องจับตามอง ไม่แพ้ความร้อนแรงในที่ประชุมสภาฯ ที่ฝ่ายค้าน-รัฐบาล กำลังเปิดฉากประลองกำลังกันด้วย วาระ “แก้รัฐธรรมนูญ” ไปจนถึงการพิจารณาโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ตามที่กองทัพเรือเสนอ ในกรอบวงเงินกว่า 2.2หมื่นล้านบาท ล่าสุด “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” แกนนำกลุ่มไทยภักดี โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ส่งสัญญาณว่า ถึงเวลาออกจากบ้าน นัดมวลชนในวันที่ 30 ส.ค.นี้ให้มาแสดงพลังที่หอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพฯ “ บัดนี้ได้เวลาที่พวกเรา ผู้ภักดีทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ ต้องไม่ยอม ต้องไม่ทน ที่จะปล่อยให้คนเหล่านี้ มาคุกคามประชาชน ได้เวลาที่พวกเรา ต้องมาแสดงออกพร้อมๆกัน เพื่อปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์” บางส่วนบางตอนข้อความบางตอนที่นพ.วรงค์ ประกาศผ่านเฟชบุค เพื่อนัดหมายบรรดา พี่น้องประชาชนที่มีอุดมการณ์และจุดยืนรักสถาบันเหมือนกัน หลังจากที่ ฝ่ายปกป้องสถาบันถูกคุกคาม โดน “ทัวร์ลง” จนอยู่ไม่ติด โดยเฉพาะเหล่าดารานักแสดงที่เคยไปขึ้นเวทีการประชุมกับม็อบกปปส. ต่างถูกโจมตีผ่านเฟชบุคอย่างรุนแรง จนนำไปสู่ผลกระทบในการทำงาน ถูกปลดจากงานพิธีกร ทั้งนี้การประกาศนัดหมายชุมนุมเพื่อแสดงพลังของกลุ่มไทยภักดี ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกหลังจากที่มีการเปิดตัวที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มไทยภักดี ถูกจับตามองมาโดยตลอดว่า นี่คือ “เครื่องมือ” ที่จะลุกขึ้นมาทำหน้าที่ “ชน” กับ “ม็อบเยาวชนปลดแอก” ซึ่งได้ร่วมกับกลุ่มการเมืองภาคประชาชน ส่งลูก ส่งต่อแนวคิดกับ “พรรคก้าวไกล” ในสภาฯ โดยเฉพาะการรุกไปยังสถาบันเบื้องสูง ผ่านกลไกของ ส.ส. ก่อนหน้านี้ ม็อบเยาชนปลดแอก และแนวร่วมที่ไม่เพียงแต่จะมีกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ในสถาบันการศึกษาที่พากันจัดกิจกรรมต่อต้านรัฐบาล เท่านั้น หากแต่ยังพบว่ามีการส่งต่อ แนวคิด ก่อให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง และก้าวล่วงไปถึงสถาบัน อย่างจงใจ โดยที่รัฐบาลยังไม่กล้าใช้ “ยาแรง” ใช้กำลัง เข้าสลายการชุมนุมแต่อย่างใด จึงยิ่งทำให้ “ฝ่ายการเมือง” ที่อยู่ข้างหลังประเมินแล้วว่า “นักเรียน-นักศึกษา” คืออาวุธชั้นดี ยิ่งเข้าไปจัดกิจกรรมในสถาบันการศึกษา ยิ่งเหมือนเป็นเกราะกำบังที่ “ฝ่ายความมั่นคง” จะเข้าไปควบคุม ได้เพราะจะตกเป็น “จำเลย” ไปทันที และเมื่อล่าสุด กลุ่มไทยภักดี ที่มี นพ.วรงค์ ประกาศ จัดการชุมนุม ก็ไม่ต่างจากการนับหนึ่ง สู่การ “จัดม็อบ” เพื่อแสดงพลังให้ฝ่ายตรงข้ามได้เห็น ส่วนเรื่องปริมาณผู้เข้าร่วมการชุมนุมนั้น ในเชิงกลยุทธ์แล้ว มีความเป็นไปได้ว่าการแสดงพลัง เพื่อ “ปราม” ม็อบเยาวชนปลดแอก จะมีขึ้นล้อไปกับการชุมนุมของกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ที่นัดหมายจัดการชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ น่าสนใจว่า จากนี้ไป คู่ปรับ คู่ใหม่สำหรับการเมืองนอกสภาฯ คือ การประจันหน้ากันระหว่าง กลุ่มเยาวชนปลดแอก กับ กลุ่มไทยภักดี นั้นจะมีโอกาสเดินไปสู่ “ความรุนแรง” ได้หรือไม่ ตามที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกต และวิพากษ์วิจารณ์กันมาโดยตลอด!