เมื่อบรรยากาศในกรุงเทพฯ ดูจะเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ศึกนอก และศึกในรุมเร้า จนทำเอา "3ป." นั่งไม่ติด ล่าสุด "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงยกคณะรัฐมนตรี ออกไปประชุมครม.นอกสถานที่ กันที่ระยอง ระหว่างวันที่ 24-25 ส.ค.นี้ หวังว่าจะได้ผ่อนคลาย เปลี่ยนบรรยากาศ แต่กลับกลายเป็นว่า นาทีนี้ไม่ว่า "ความวุ่นวาย" และ "แรงกดดัน" จากการเมืองนอกสภาฯ ติดตามนายกฯประยุทธ์ อย่างไม่ลดละ
เมื่อ "ไมค์ ระยอง" จารุพงศ์ จาดนอก หนุ่มระยองที่เคยถือป้ายโจมตีนายกฯ และยังเป็นแกนนำที่ขึ้นปราศรัยบนเวทีการชุมนุมกลุ่มเยาวชนปลดแอก จนถูกออกหมายมาก่อนหน้านี้ ได้บุกเข้ามาชูป้ายประท้วง พล.อ.ประยุทธ์ และคณะที่ไปเยือนถึงถิ่นจนเจ้าหน้าที่ต้องเข้าควบคุมสถานการณ์
แน่นอนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่น่าจะมีอะไรที่เกินไปจากความคาดหมาย ของทีมเสนาธิการข้างตัวนายกฯ ประยุทธ์ เพราะความจริงแล้ว ก่อนหน้านี้ ในห้วงที่มีการจัดกิจกรรมชุมนุม ต่อต้านรัฐบาล กดดันให้ยุบสภา โดยกลุ่มเยาวชนปลดแอก จนมาถึง "กลุ่มประชาชนปลดแอก" ได้ออกฤทธิ์ สะท้อนให้ "ฝ่ายความมั่นคง" ได้เห็นทั้ง "จำนวนคน" ตลอดจน "ยุทธวิธี" แล้วว่ามีการเคลื่อนไหวกันอย่างไร
อย่างไรก็ดีการเคลื่อนไหว "นอกสภาฯ" ที่นำโดยกลุ่มประชาชนปลดแอก เดินหน้าคู่ขนานไปกับกลุ่มนักเรียน นักศึกษาที่ใช้พื้นที่ในสถานศึกษาจัดการชุมนุม เรียกร้องและกดดันรัฐบาลในประเด็นที่ สอดรับไปกับปฏิบัติถล่มรัฐบาลในสภาฯ ด้วยปมการแก้รัฐธรรมนูญ มาจนถึงเรื่องร้อนล่าสุดคือการจัดซื้อเรือดำน้ำ ในกรอบวงเงิน กว่า2หมื่นล้านบาท
ปมประเด็นที่ว่าด้วยการซื้อเรือดำน้ำ ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม อนุ กมธ.ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 สภาผู้แทนราษฎร แถมยังมีการให้ข่าวว่ามี "นายพล ป." โทรล็อบบี้ให้กรรมาธิการฝ่ายรัฐบาล จากนั้นมีการปั่นกระแส ในโลกโซเชียล จนทำให้กระแสต่อต้านคัดค้านการซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือพัวพันเชื่อมโยงกับการบริหารงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ลุกลามไปจนถึงเรื่องที่ว่าเพราะประเทศเรามี "รัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560" ที่เป็นปัญหา จึงมีรัฐบาลที่ตัดสินใจซื้อเรือดำน้ำในยามที่บ้านเมืองเดือดร้อน จากพิษเศรษฐกิจ และไวรัสโควิด
แต่แล้วล่าสุดเมื่อ รัฐบาลอยู่ในภาวะที่ "นั่งไม่ติด" การใช้ "เครื่องมือ" ที่มีอยู่ทั้ง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐที่อยู่ในคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ ที่ไล่ต้อนกลับไปยัง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่า "นายพล ป." นั้นคือใคร หรืการที่กองทัพเรือ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเหตุผลในการเสนอจัดซื้อเรือดำน้ำ ครั้งนี้ มีความรัดกุมมากพอที่จะไม่กลับไปซ้ำรอย "โครงการจำนำข้าว" ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
คือการสะท้อนกลับ เพื่อแสดงให้เห็นว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำ ไม่ว่าจะมีการ "ทบทวน" หรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่จำเป็นเร่งด่วนยามนี้คือการหาทาง "ตัดไฟแต่ต้นลม" ไม่ยอมเป็นฝ่าย "เปิดหน้า" ให้ฝ่ายตรงข้าม "ถล่ม"อยู่ข้างเดียว
นอกจากนี้ยังน่าสนใจว่า ในท่ามกลางความนิ่งสงัด สงบจนผิดปกติ เหมือนกับว่า การชุมนุมเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมทางการเมืองของกลุ่มประชาชนปลดแอก มีกลุ่มนักเรียน นักศึกษาเข้าร่วม ที่ได้สอดแทรกประเด็นที่พาดพิงหมิ่นเหม่ "สถาบัน" นั้นเหตุใด รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคง จึงได้แต่ "ปราม"จนทำให้ ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล เองเกิดความหวั่นไหว จนต้อง "จุดพลุ" ว่าด้วยเรื่อง "ปฏิวัติรัฐประหาร" กันขึ้นมาขู่พวกเดียวกันเอง อย่างที่เห็น
หรือแท้จริงแล้ว จุดหมายปลายทางของรัฐบาล โดยพล.อ.ประยุทธ์ ประเมินแล้วว่า ภายหลังจากใช้วิธีการ "แยกปลาออกจากน้ำ" ด้วยการออกหมายจับ "แกนนำ"เพื่อลดโทนการปลุกระดมนั้นน่าจะ "เอาอยู่" เพียงพอที่จะรับมือได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ "ยาแรง" ขยับยึดอำนาจให้เกิดความวุ่นวาย !