ทีมข่าวคิดลึก
แทบไม่มีอะไรต้องรอลุ้นกันให้เหนื่อย เพราะในที่สุดแล้ว สิ่งที่ถูกคาดการณ์กันเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะมีการรายการ "เซตซีโร่" คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชนิดยกชุด เมื่อมติจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงคะแนนฉลุย 161 เสียงต่อ 15 ให้ กกต.ทั้งชุดสิ้นสุดสภาพ ด้วยเหตุที่มีคุณสมบัติไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ 2560 !
แม้ในการประชุม สนช. เมื่อวันศุกร์ที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้มีสมาชิก สนช.เสนอความเห็นออกเป็นสองฝ่าย ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับมติของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯที่ได้เสนอรายงานเข้าสู่ที่ประชุม ก็ตาม เนื่องจาก สนช.บางฝ่ายเห็นว่า หากโละ กกต.ชนิดยกชุด จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานจัดการเลือกตั้ง ที่จ่อคิวจะมีขึ้นตามโรดแมป ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
แต่ถึงกระนั้น ดูเหมือนว่า "ธง" ที่ตั้งกันขึ้นมาก่อนหน้านี้ จะมีความชัดเจนแล้วว่า เป้าหมายการบริหารจัดการกับ "องค์กรอิสระ" ตามรัฐธรรมนูญ ของคสช. นั้นจะออกมาในรูปไหน อย่างไรซึ่งไม่ได้ผิดแผกไปจากที่ "ฝ่ายการเมือง"ทั้งพรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตในทิศทางเดียวกันแล้วว่าคสช. เพียงแค่ใช้ "กลไก" อย่างแม่น้ำ 2 สายในมือคือ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และ สนช. เช็กบิลกับกกต. เท่านั้น
ไม่เพียงแต่ กกต.เท่านั้นที่อยู่ในเป้าหมายของการเซตซีโร่ เพื่อ "ล้างไพ่"กรรมการในองค์กรอิสระ หากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ กกต. ครั้งนี้ยังจะกลายเป็น "สัญญาณ" ที่จะส่งไปยังองค์กรอิสระอื่นๆตามมา ทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ,คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)
ในความเป็นจริงแล้ว สัญญาณการเซตซีโร่ กกต. ชนิดยกชุดนั้นเริ่มแรงชัดมากขึ้นจนทำให้ "ฝ่ายการเมือง" ต่างหวาดหวั่นไปตามๆ กันไม่แพ้ "5 เสือกกต."เช่นกัน เพราะการที่เซตซีโร่ กกต.ทั้งชุดแล้วนำไปสู่การจัดสรร กกต.ชุดใหม่ลงมาทำหน้าที่แทน โดยเป็นคนที่คสช. สามารถวางใจและควบคุมได้หรือไม่
เพราะประเด็นที่เคยมีหลายคนแสดงความเป็นห่วงว่า การเซตซีโร่ครั้งนี้ อาจจะเป็นการ "ยื้อ" เลือกตั้งนั้น ทาง"มีชัย ฤชุพันธุ์" ประธาน กรธ.ได้ออกมายืนยันแล้วว่า ไม่เกี่ยวกัน เนื่องจากไม่ว่าจะสรรหา กกต.เมื่อใด ก็จะใช้เวลาตามกรอบ 90 วัน ไม่กระทบต่อการเลือกตั้งอยู่แล้ว !
ประเด็นที่ต้องให้น้ำหนักจากปฏิบัติการเซตซีโร่ "5 เสือ กกต."นั้น จึงไม่ได้อยู่ที่การเลื่อนการเลือกตั้ง ตามที่หลายฝ่ายกังวลกันอีกต่อไปเท่านั้น หากแต่โอกาสและความเป็นไปได้ที่ คสช. จะส่ง"ใคร" ลงมาทำหน้าที่ในองค์กรอิสระต่างๆ ที่จะถูกเซตซีโร่ต่างหาก คือเงื่อนไขที่ต้องจับตา
หากประเมินจากแรงต้าน เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่พากันคัดค้านไม่ให้กรธ.+สนช.จัดการเซตซีโร่ กกต.ก่อนหน้านี้ ดังอื้ออึงและดุเดือดแค่ไหน แต่ท้ายที่สุดแล้วแม่น้ำทั้งสองสาย ก็สามารถ "ฝ่าด่าน"มาได้อย่างฉลุย โดยมีมติจากที่ประชุมสนช. 161 เสียงเป็นเครื่องการันตี ดังนั้นหากจากนี้ไป จะมีการ "เขย่า" องค์กรอิสระอื่นๆ โดยเฉพาะคณะกรรมการป.ป.ช. ก็คงไม่ใช่เรื่องยาก
ทั้งหลายทั้งปวงของการเซตซีโร่องค์กรอิสระที่มีความสำคัญ ทั้งการดำเนินการจัดการเลือกตั้งตามโรดแมป ไปจนถึงองค์กรที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยติดตามตรวจสอบ "ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" เพื่อนำไปสู่การล้างไพ่ชุดเดิมแล้วส่ง "มือไม้" ที่ไว้ใจได้ทั้งหมด ลงมาคุมเกม ทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง ต่างหาก คือ "ธง" ที่คสช.ได้ชูเอาไว้เรียบร้อยแล้ว !