เกิดเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมา ชนิดที่ไม่มีปี่ มีขลุ่ย เมื่อเกิดความเคลื่อนไหวขึ้นที่ “พรรคเพื่อไทย” เพราะบรรดาลูกพรรคทำให้ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี เกิดอาการ “ฉุนขาด” จนถึงขั้นหลุดสบถออกมาว่า “เลวมาก”
เพราะมี “มือมืด”ปล่อยข่าวให้สื่อข่าวพรรคเพื่อไทย เตรียมเคาะให้ “คุญหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ประธานยุทธศาสตร์ของพรรค เตรียมแต่งตัวลงการเมืองสนามเล็ก โดยจะให้ลงสมัครผู้ว่าราชการการกรุงเทพมหานคร หวังปักธงในพื้นที่กทม.
จากความอึมครึมที่พรรคเพื่อไทย ทำให้ลูกพรรคเกิดอาการฉงนไปตามๆกัน คุณหญิงสุดารัตน์ คือตัวแทนของพรรคที่จะลงสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ มีชื่อของ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” แกนนำพรรคเพื่อไทย ว่าจะเป็นแคนดิเดตมาโดยตลอด ซึ่งแน่นอนว่าชื่อของชัชชาติ ได้รับการขานรับจากสังคมไม่น้อย
ล่าสุดก่อนที่เรื่องราวจะบานปลาย มีสัญญาณจากพรรคเพื่อไทย ส่งตรงมาจาก อดีตนายกฯทักษิณ ว่าให้คุณหญิงสุดารัตน์ ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการสรรหา ผู้ที่เหมาะสมลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามของพรรคต่อไป
เรียกว่าจบลงอย่างแฮปปี้ เอนดิ้ง เพราะลึกๆแล้ว ตัวคุณหญิงสุดารัตน์ เองไม่ต้องการลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ด้วยซ้ำ เพราะเท่ากับเป็นการลดบทบาทของตัวเองลงไปเล่นในสนามเล็ก ลดอำนาจการต่อรองภายในพรรคไปอย่างสิ้นเชิง
อย่างไรก็ดี การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ซึ่งถือเป็นการเมืองระดับท้องถิ่น จะเกิดขึ้นหรือไม่ และเมื่อใด ย่อมอยู่ที่ “ความพร้อม” ของ ฝ่ายรัฐบาล เป็นสำคัญ แม้เสียงเรียกร้องจากหลายต่อหลายฝ่าย จะกดดันให้รัฐบาลเร่งจัดการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น แต่ก็อาจไม่ใช่ “เงื่อนไข” ที่จะนำไปสู่การตัดสินใจ ของรัฐบาล
การขยับเตรียมตัวปักธงสนามกทม.ของพรรคเพื่อไทย จะลุล่วงหรือไม่ อาจไม่ได้อยู่ที่ การต่อสู้กับ “พรรคพลังประชารัฐ” ในฐานะพรรคการเมืองขั้วตรงข้ามเท่านั้น เพราะต้องไม่ลืมว่า เมื่อครั้งที่ยังมี “พรรคอนาคตใหม่” มี หัวหน้าพรรคที่ชื่อ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ได้ทำให้พรรคได้รับการตอบรับจาก “คนรุ่นใหม่” ในกรุงเทพฯ จำนวนไม่น้อย !
หมายความว่า พรรคเพื่อไทยอาจต้องเผชิญกับปัญหาการแย่งคะแนนกันเอง กับ “พรรคก้าวไกล” พรรคการเมืองทายาทของพรรคอนาคตใหม่ ที่จะต้องส่งคนลงมายึดเก้าอี้ “ผู้ว่าฯกทม.” อย่างไม่ต้องสงสัยด้วยเช่นกัน
การฟื้นตัวในสังเวียนการเมืองสำหรับพรรคเพื่อไทย ในยุคที่เงียบงัน ถูก พรรคการเมืองหน้าใหม่ ชิงความโดดเด่น ทำแต้มนำไปหลายช่วงตัว ตั้งแต่เมื่อคราวก่อนเลือกตั้งส.ส.24มี.ค.2562 คือโจทย์ข้อยากที่แกนนำทุกคนในพรรคต้องหาทางออกให้ได้โดยเร็ว แม้แต่อดีตนายกฯทักษิณ เองก็คงไม่คาดคิดว่า แท้จริงแล้ว “คู่แข่ง”ของพรรคเพื่อไทยจะกลายเป็น “พรรคร่วมฝ่ายค้าน” ด้วยกันเองอย่าง พรรคอนาคตใหม่ มาถึง พรรคก้าวไกล
อย่าว่าแต่สนามกทม. ที่พรรคก้าวไกล จะไม่ยอมหลีกทางให้พรรเพื่อไทยเลย แต่ทุกสนามเลือกตั้งซ่อม ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกล ก็ยังไม่ยอม “ถอยให้” พันธมิตรร่วมรบด้วยซ้ำ ล่าสุดสนามเลือกตั้งใหม่ เขต 5 สมุทรปราการ พรรคก้าวไกล ยังประกาศตัวท้าชิง ทุกค่าย ทุกพรรค ไม่ไว้ไมตรี พรรคเพื่อไทยอย่างที่เห็น ดังนั้นสนามกทม. คือชัยภูมิทางการเมืองที่มีความสลักสำคัญ มีหรือ พรรคก้าวไกล จะยอมถอยให้ !!