การตัดสินใจแสดงสปิริตของ "พรรคชาติพัฒนา" ที่มีมติให้ "เทวัญ ลิปตพัลลภ" หัวหน้าพรรค ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง "รัฐนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี" ต่อ "ดิสทัต โหตระกิต" เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา กำลังสะท้อนให้เห็นว่าการปรับเปลี่ยน "ตัวผู้เล่น" ในการปรับคณะรัฐมนตรี รอบนี้ "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คงไม่ได้หยุดอยู่ที่การจัดสรร "คนนอก" เข้ามาทำหน้าที่ "ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่" แทน "กลุ่มสี่กุมาร" และ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" อดีตรองนายกฯเท่านั้น หากแต่อาจใช้โอกาสนี้ ปรับโหมด เคลียร์คัท ความวุ่นวายทางการเมืองที่รุมเร้ามาพักใหญ่ไปในคราวเดียวกัน ! ในความเป็นจริงแล้ว การตัดสินใจของพรรคชาติพัฒนา คือการตัดสินใจของ "สุวัจน์ ลิปตพัลลภ" แกนนำพรรคตัวจริงว่าที่สุดแล้ว ถึงคราวต้อง "คืนเก้าอี้" ให้กับพล.อ.ประยุทธ์ ภายหลังจากที่พรรคชาติพัฒนา ซึ่งมีส.ส.3ที่นั่งเมื่อครั้งเข้าร่วมรัฐบาล แต่ก็ยังได้รัฐมนตรี ไป1ตำแหน่ง จนได้มีโอกาสให้ น้องชาย คือ เทวัญ ทำหน้าที่รัฐมนตรีประจำสำนักฯมาจนครบขวบปี การแสดงสปิริต "เสียสละ" ด้วยการให้เทวัญ ลุกจากที่นั่งรัฐมนตรี ย่อมเป็น "ทางลง" ที่สวยงาม และดีต่อทุกๆฝ่าย หากต้องรอให้พรรคชาติพัฒนา ถูกเรียกโควต้า คืน ! การเมืองก็เป็นเช่นนี้ เหมือนกับที่สุวัจน์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ตอนหนึ่งว่า "ผมก็เข้าใจการเข้าสู่การเมือง บางทีมันก็เจ็บตัว มีรอยขีดข่วนอยู่บ้าง" เพราะการดึงดัน และงัดง้างกับ ทั้ง "บิ๊กตู่"กับ "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ น่าจะมีแต่ "เสียหาย" และเปล่าประโยชน์ !! แน่นอนว่าการ "แสดงสปิริต" ของพรรคชาติพัฒนา ครั้งนี้ย่อมเกิด เอฟเฟ็กซ์ ตามมา เพราะมีหรือที่ "พรรคเล็ก" ได้โควต้าตำแหน่งรัฐมนตรี ในครม. "ประยุทธ์ 2/1"ที่ยังนั่งกันอยู่จะไม่เกิดความหวั่นไหว ตามมา เมื่อสุวัจน์ แกนนำตัวจริงพรรคชาติพัฒนา สั่งถอย ให้เทวัญ สละเก้าอี้รัฐมนตรีประจำสำนักฯ แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่า "พรรครวมพลังประชาชาติไทย" ของ "สุเทพ เทือกสุบรรณ"ผู้ก่อตั้งพรรค ที่ประกาศจองเก้าอี้ "รมว.แรงงาน" โดยย้ำว่าเป็นโควต้า 1ที่นั่งที่นายกฯมอบให้กับพรรคตั้งแต่แรก เพราะแม้รวมพลังประชาชาติไทยจะมี 5เสียงส.ส.อยู่ในมือ แต่ก็ใช่ว่าจะ "สมหวัง" ด้วยการผลักดันให้ "เอนก เหล่าธรรมทัศน์" นั่งรมว.แรงงาน ต่อจาก "หม่อมเต่า" ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน โดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่เช่นนั้นคงไม่มี "มือดี" จงใจปล่อยว่าให้สะพัดมาพักใหญ่ว่า สุดท้ายแล้วพรรครวมพลังประชาชาติไทย ต้องยอมแลกกับกระทรวงการอุดมศึกษาฯ กับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเปิดทางให้ "สุชาติ ชมกลิ่น"ประธานส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ ได้ไปนั่ง "จับกัง 1" แทน การดึงเก้าอี้รัฐมนตรี ในหลายบางกระทรวงที่อยู่กับ พรรคร่วมรัฐบาล พรรคเล็ก ภายหลังจากที่เปิดโอกาสให้ส่งคนเข้ามานั่งบริหารประเทศ ครบ 1ปีของ "บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่" รอบนี้ เพื่อหวังยุติความวุ่นวายการต่อรองภายในพรรคพลังประชารัฐ และในเวลาเดียวกัน ยังเปิดทางให้นายกฯ จัดสรรเก้าอี้ "ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่" ได้อย่างราบรื่น โดยไม่ต้องห่วงว่า "คนใน"ของพรรคพลังประชารัฐ จะเข้ามาวุ่นวาย เสนอตัวให้เลือก เพราะงานใหญ่จากนี้ไป สำหรับพล.อ.ประยุทธ์ คือการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ ให้กลับมาโดยเร็ว เพื่อสยบทั้งการเมืองทั้งในสภาฯและบนท้องถนน !