ยุติลงไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับการชุมนุมเคลื่อนไหวของ "กลุ่มเยาวชนปลดแอก - Free YOUTH" เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่นัดหมายมารวมตัวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ยื่น3ข้อเรียกร้องไปถึง "รัฐบาล" และถ้ายังไม่ดำเนินตามที่ร้องขอ กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศ "ยกระดับ" การกดดันให้มากขึ้นกว่าการรวมตัวทำกิจกรรม สำหรับข้อเรียกร้อง ที่กลุ่มเยาวชนปลดแอกฯ ส่งตรงถึงรัฐบาล ประกอบด้วย 1.ขอให้ยุบสภาฯ เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาโควิด ได้ 2.หยุดคุกคามประชาชน และ3. เรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ การชุมนุมไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ "ข้ามคืน" ปรากฎว่าแกนนำได้ประกาศยุติการชุมนุมลงเสียก่อน โดยให้เหตุผลเรื่อง "ความปลอดภัย" พร้อมทั้งทิ้งท้ายเอาไว้ว่า "เราจะกลับมาใหม่" ในอีก 2 สัปดาห์หากรัฐบาลยังเพิกเฉยต่อทุกข้อเรียกร้อง ในความเป็นจริงแล้วการนัดหมายชุมนุม ของกลุ่มเยาวชนปลดแอกครั้งนี้น่าสังเกตว่า ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น มีเพียงการวางกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อย ตามพ.ร.บ.การชุมนุมในพื้นที่สาธารณะ เท่านั้น ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะ "ฝ่ายความมั่นคง" ประเมินจาก "การข่าว"แล้วพบว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชนฯครั้งนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และต้องพยายามรักษาระยะห่าง ไม่ให้เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้ชุมนุม จนกลายเป็น "น้ำผึ้งหยดเดียว" เป็นเงื่อนไขที่นำไปสู่การสร้างสถานการณ์ให้บานปลายออกไป เพราะล่าสุด พ.ต.อ.อิทธิพล พงษ์ธร ผกก.สน.สำราญราษฎร์ ได้ออกมายืนยันแล้วว่า ยังไม่มีการออกหมายเรียกหรือหมายจับแกนนำคนไหน ทั้งสิ้น ! อย่างไรก็ดี การชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชนฯ ที่เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาฯ ไปจนถึงแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น อาจไม่มีผลกระทบหรือมีน้ำหนักมากพอที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างใดอย่างหนึ่งต่อรัฐบาลได้อย่างแน่นอน อย่าลืมว่า รัฐบาลของ "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คือ ภาคต่อของ "คสช." ที่เคยออกมาปราบม็อบเสื้อสีมาแล้ว และที่สำคัญไปกว่านั้น บรรดา "มือทำม็อบ" แทบทุกเสื้อสี ต่างก็อยู่ในสังกัดของพรรคพลังประชารัฐ และรัฐบาลนั่นเอง การเปิดทางให้มีการชุมนุมอย่างสะดวกโยธิน โดยไม่มีเหตุการณ์ "ภายนอก" เข้ามากดดัน นอกเหนือไปปัญหาที่เกิดจากการจัดการของแกนนำม็อบเยาวชนฯที่ยังไม่เป็น "รูปขบวน" จึงทำให้ขาดความพร้อม ในการรับมือกับทั้งมวลชนที่มาร่วมชุมนุมแล้ว พวกเขาเหล่านี้ยังต้องเรียนรู้การบริหารจัดการปัญหาอีกมาก แม้จะมี "ฝ่ายการเมือง" ที่เชื่อมโยงทั้งทางตรงและทางอ้อม กับกลุ่มเยาวชนฯ ให้การสนับสนุน ก็ตามที เปิดหน้าลงมาเล่นบนท้องถนนของม็อบเยาวชนฯที่เชื่อมโยงกับ "กลุ่มการเมือง" ที่ทุกคนต่างรับรู้กันเป็นอย่างดีเช่นนี้ อาจกลายเป็นการเปิดหน้า ให้ใครก็ตาม หยิบกฎหมายขึ้นมาใช้ "จัดการ" กับส.ส.ของพรรคก้าวไกล ทั้งที่ปรากฎตัวร่วมชุมนุม หรือประกาศใช้ "สถานะส.ส." ประกันตัวหากแกนนำคนใด ถูกจับกุม ว่าจะเข้าข่ายมีความผิดตาม ป.อาญา ม.83 และ ม.86 ด้วยหรือไม่ และนี่ยังไม่นับการพิจารณาความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่สั่งห้ามมิให้มีการรวมกลุ่ม หรือการชุมนุมต่างๆที่ล้วนแล้วแต่เอาผิดกับแกนนำม็อบเยาวชนฯได้ทั้งสิ้น !