ทีมข่าวคิดลึก
อาการนิ่งเฉยไม่ชี้แจงทุกประเด็นร้อนต่อสื่อมวลชนของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังคงดำเนินต่อไป ในท่ามกลางเสียงอึกทึกรอบด้าน !
ทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานของรัฐบาล ไปจนถึงการออกมาแสดงท่าทีคัดค้าน และเกรี้ยวกราดจากฝ่ายการเมืองไปจนถึง กรรมการในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เมื่อปฏิบัติการ "เซตซีโร่" คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เกิดขึ้น จนกลายเป็นประเด็นที่สร้างความหวั่นไหวกันถ้วนหน้า
แม้ตลอดหลายวันที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ เลือกที่จะไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ประจำทำเนียบรัฐบาล แต่กลับเลือกที่จะ "ส่งสาร"กับพี่น้องประชาชน ผ่านวาระการประชุมนัดสำคัญๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นการพบปะกับพี่น้องชาวเกษตรกรที่ทำเนียบรัฐบาล ในการให้โอวาทเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2560 ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ยังให้ความมั่นใจว่าทุกอย่างจะต้องเดินหน้าตามโรดแมป ยืนยันว่าไม่มีการขัดขวางการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
และล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นประธานในการประชุมมินิคาบิเนต ที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมทั้งให้ความเชื่อมั่นต่อสาธารณชน ว่าไม่มีแนวคิดที่จะยกเลิกโครงการ 30 บาท ตามที่มีกระแสมาก่อนหน้านี้แต่อย่างใด
นั่นหมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์เลือกที่จะเป็นฝ่ายกำหนดเกมการเล่นเลือกที่จะเป็นผู้ "ส่งสาร" มากกว่าที่จะตกเป็น "เป้าโจมตี" ด้วยการตอบทุกข้อซักถาม จากสื่อมวลชน เพราะย่อมรู้ดีว่า มีหลายคำถามที่ไม่อยากตอบ
แต่สำหรับ 4 คำถามที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตั้งเอาไว้ก่อนหน้านี้ มีความชัดเจนว่า จะต้องขยับเดินหน้า โดยผ่านกลไก ที่มีอยู่ในมืออย่างเต็มกำลังทั้ง "กระทรวงมหาดไทย" ในฐานะเจ้าต้นสังกัด "ศูนย์ดำรงธรรม" ที่มีอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นหน่วยไปรษณีย์ นำ "คำตอบ" ประชาชน มาส่งถึงมือ พล.อ.ประยุทธ์
แน่นอนว่า "คำตอบ" จากประชาชนที่มีต่อ "คำถาม" ของ พล.อ.ประยุทธ์ ย่อมมีความสลักสำคัญและไม่อาจมองข้ามเพราะจะว่าไปแล้ว ก็ไม่ต่างไปจากเมื่อครั้งที่รัฐบาลเคยทำประชามติ "ร่างรัฐธรรมนูญ" พร้อมด้วย"คำถามพ่วง" มาแล้ว
สิ่งสำคัญที่สุดคือ "คำตอบ" จากประชาชน ย่อมจะนำมาซึ่ง "ความชอบธรรม" ให้กับรัฐบาลและ คสช. ในช็อตต่อไป โดยเฉพาะในห้วงที่โรดแมปของ คสช. กำลังเข้าสู่โหมดเริ่ม "นับถอยหลัง" และยังต้องเผชิญหน้ากับกระแส "ขาลง" ที่มีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อเข้าสู่ปีที่ 4 ของการยึดอำนาจ
ดังนั้นอาการนิ่งเงียบของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่กลับมีความเคลื่อนไหว ในมิติที่กำลังจะทำให้รัฐบาลและ คสช.พลิกกลับมาเป็นฝ่าย "กุมสภาพ" ความเป็นต่อ จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย มิหนำซ้ำการลดแรงเสียดทานจากการเปิดวิวาทะกับสื่อและฝ่ายการเมือง ในจังหวะที่สถานการณ์ของรัฐบาล-คสช. ไม่เป็นใจทั้งประเด็นการเซตซีโร่ กกต. ไปจนถึงปัญหาระเบิดป่วนเมืองที่สร้างความหวั่นไหว ในสังคม เพราะยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้แต่อย่างใด
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ยิ่งตอบโต้ ยิ่งแจกแจง อาจจะไม่ได้ทำให้เกิดผลบวกแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามการเปิดเกมรุกผ่านกลไกในมือทั้งในส่วนของกระทรวงมหาดไทย และกองทัพ ในลักษณะ "กินทีละคำ" ย่อมมีแต่คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม !