นายกฯ เดินสายพบนสพ.แล้วได้อะไรมา ?

แสงไทย เค้าภูไทย นายกรัฐมนตรีเดินสายพบผู้บริหารหนังสือพิมพ์เพื่อขอคำแนะนำระดมสมองฟื้นฟูประเทศ ได้อะไรมาบ้าง ? นอกเหนือจากมิตรภาพระหว่างนายกรัฐมนตรีกับสื่อมวลชน สื่อมวลชนที่นายกฯเดินสายพบนี้ ไม่รวมนักข่าวทำเนียบฯกับนักข่าวสภาฯ นักหนังสือพิมพ์กับนักข่าวแตกต่างกันที่ลักษณะงาน คือนักหนังสือพิมพ์ (Journalist) คือผู้ดำเนินการ บริหารกิจการและผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ส่วนนักข่าวหรือผู้สื่อข่าว (Reporter) ชื่อบอกอยู่แล้วว่าคือผู้สื่อข่าว ที่จะอธิบายถึงความเป็นนักข่าวก็คือ ภาพที่พวกเขาและเธอที่ไปยืนหน้าสลอนสัมภาษณ์นายกฯ บ้างเอาไมค์จ่อปาก บ้างเอาสมาร์ทโฟนจ่อบันทึกเสียงแทนปากกาจดใส่สมุดพกพาแบบสมัยก่อน นักข่าว(การเมือง)พวกนี้แหละคือตัวจักรสำคัญที่สื่อข้อมูล ความคิด นโยบาย การทำงาน ผลงาน พฤติกรรม กิจกรรม ฯลฯ ของรัฐบาลและผู้บริหารกิจการงานเมืองและสภาฯ ไปสู่ประชาชน นักข่าวพวกนี้แหละที่เคยถูกพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตะคอกใส่ ขึงเครียด ขมวดคิ้วใส่ ชี้กราด ตวาดใส่ และนักข่าวพวกนี้แหละที่ตั้งฉายารัฐบาลชุดนี้ว่า “รัฐบาลเชียงกง” อันสร้างความหงุดหงิดให้แก่นายกฯเป็นที่ยิ่ง พวกบริหารงานข่าว คอลัมนิสต์ บรรณาธิการ หัวหน้าข่าว ล้วนต้องอาศัย “ข่าว” จากนักข่าวเป็นวัตถุดิบในการเขียนหรือนำเสนอบนหน้าหนังสือพิมพ์หรือสื่อวิทยุโทรทัศน์หรือสื่อออนไลน์รูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข่าวพาดหัว ข่าวย่อย บทความ คอลัมน์ บทวิเคราะห์ ฯลฯ นายกฯไปพบกับบุคลากรหนังสือพิมพ์กลุ่มหลังนี้แล้วได้อะไรมาบ้าง ? นอกเหนือจากความเป็นมิตรแล้ว ก็คงไม่ได้อะไรมากไปกว่าที่คนพวกนี้เขียน/แสดงความคิดเห็นออกผ่านสื่อที่ตนสังกัดกันอยู่ ถ้านายกฯขยันอ่าน ขยันชม/ฟังสื่อทุกด้าน ก็คงจะไม่ต้องเดินสายพบกับนักหนังสือพิมพ์เหล่านั้น ยุคนี้เป็นยุคสื่อดิจิทัล สื่อออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น Digital Journalist และ Social Media Journalist ล้วนครองพื้นที่ข่าวสารและข้อมูลทุกด้าน ลดบทบาทผู้ชี้นำสังคมแทบทุกด้านของสื่อสิ่งพิมพ์ เป็นรูปแบบการทำลายล้างด้วยนวัตกรรมใหม่ทางเทคโนโลยีหรือ disruption ที่เกิดขึ้นในทุกวงการ ทำนองคลื่นลูกใหม่ซัดสาดกลบคลื่นลูกเก่า หนังสือพิมพ์และสื่อวิทยุรุ่นเก่าถูกทำลายล้างด้วยอุปสงค์ที่ลดลง หลายรายปิดตัวลง หลายรายลดยอดผลิต โดยแทบทุกรายหันมาเปิดหน้าออนไลน์เพื่อความอยู่รอด สื่อมวลชนดิจิทัลนับวันแต่จะมีบทบาท เพราะแทนที่สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุโทรทัศน์ ได้ทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นตัวหนังสือ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว สีเสียง อาร์ตเวิร์ก นักข่าวดิจิทัลสามารถส่งข่าว/ข้อมูลขึ้นจอรายงานข่าวได้ทันที ทั้งแบบสดและ เป็นตัวอักษร โดยใช้ USB OTG Flash Drive เป็นตัวปรับแต่งส่งเข้าวินโดวส์แล้วส่งขึ้นเพ็จเสนอต่อสาธารณะใช้เวลาไม่กี่วินาที วันนี้นักข่าวดิจิทัลสามารถสืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลออนไลน์หรือ Data ได้จากทุกหนทุกแห่ง Data นี้ เคยสร้างปรากฏการณ์อื้อฉาวสาวไส้คอฺรัปชัน จากการใช้ ข้อมูลเชิงลึกเจาะข่าวหรือการรายงานข่าวเชิงสืบสวน (Investigative Reporting) ก็คือกรณี Panama Paper ที่ทำให้นายกรัฐมนตรีไอซ์แลนด์ต้องลาออก ครั้งนั้นใช้ข้อมูลเชิงลึกหรือ Data แต่ตอนนี้มีข้อมูลที่ใหญ่กว่าคือ Big Data ที่บัญญัติศัพท์เป็นภาษาแขกว่าข้อมูลมหัต อันที่จริงเรียกกันแบบไทยๆว่า”ข้อมูลยิ่งยวด ” หรือ” ข้อมูลฐานกว้าง” ชาวบ้านก็สามารถเข้าใจความหมายได้ ข้อมูลยิ่งยวดเหล่านี้เชื่อมโยงถึงกันหมด ใครทำอะไรไว้ กินอย่างไร โกงอย่างไร Big Data ครอบคลุมหมด นี่คือสิ่งใหม่และ greater knowledge ที่สื่อมวลชนวันนี้ต้องเรียนรู้เพื่ออยู่รอด มิฉะนั้น จะถูกคลื่นลูกใหม่ไล่ลบกลบสิ้น