สถาพร ศรีสัจจัง
ตัวเลขที่ปรากฏจริงวันนี้ และตัวเลขจากองค์กรเกี่ยวข้องพยากรณ์ว่าจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้ เกี่ยวกับภาวะว่างงานของคนในประเทศไทย บอกเราให้เห็นถึงลางหายนะ และความล่มสลายทางสังคมที่น่ากลัวในเวลาที่กำลังจะคืบคลานมาถึง !
เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เดินทางมาถึงสังคมมนุษย์และสังคมไทยในทศวรรษที่ระบบทุนนิยมบริโภคได้ทำลายระบบคุณค่าของคตินิยมแบบเก่าในสังคมแบบเกษตรกรรม อันอาศัยองค์คุณที่เกิดจากการ ขัดเกลาทางสังคม(Socialization)ของ พลังศรัทธาและความเชื่อ ทางศาสนา
ซึ่งได้ก่อเกิดสิ่งที่เรียกว่า ระบบศีลธรรม-จริยธรรม ขึ้นเป็นเกราะกำบัง ความเสรีอันไร้ขอบเขต อันเป็นแรงกระตุ้นจาก กิเลส อันเป็นแรงผลักเชิงพฤติกรรมพื้นฐานสันดานดิบของความเป็นมนุษย์
วัฒนธรรม หรือ โครงสร้างชั้นบน (Super structure) ที่เรียกว่า จริยธรรม หรือ ศีลธรรม (Moral & Ethic) เหล่านั้นเอง ที่เป็นตัวช่วย ควบคุม พฤติกรรมทางสังคม ของมนุษย์ให้อยู่ในร่องรอยของการ ไม่เบียดเบียน ทั้งต่อตนเองและผู้อื่นให้มากจนเกินไป ทำให้ปัญหา การเบียดเบียน ระหว่างคนกับคน ครอบครัวกับครอบครัว รัฐกับรัฐ อยู่ในระดับที่ สามารถเยียวยา ได้ไม่ยากนัก
แต่ธาตุแท้ที่เกิดจากระบบ ทุนนิยมเสรี ไม่เป็นเช่นนั้น!
วัฒนธรรมทางจิตใจที่เกิดจากความสัมพันธ์ทางการผลิตแบบ ทุนนิยมบริโภคเสรี คือ ความอยากที่เสรี อย่างไม่มีขอบเขต อย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยเนื้อหาของระบบดังกล่าว ไม่มี ความพอดี หรือ พอเพียง ทุกอย่างล้วนกระตุ้นให้เกิด กิเลส(Lust)หรือ การสนองความต้องการ อย่างซับซ้อน และหนักหน่วงยิ่งขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
สรุปเป็นรูปธรรมให้สั้นสุดก็คือ ระบบนี้ก่อให้เกิด การเบียดเบียน ขึ้นอย่างกว้างขวางและรุนแรงในทุกมิติทั้งการเบียดเบียนตัวเอง การเบียดเบียนผู้อื่น การเบียดเบียนระหว่างบ้านกับบ้าน ระหว่างคนกับสิ่งแวดล้อม
กระทั่งระหว่างรัฐกับรัฐ!
แม้จะสามารถพัฒนาการศึกษาระบบควบคุมสังคมที่เรียกว่า กฎหมาย หรือระบบการลงโทษในสังคมให้กว้างไกลลึกล้ำขึ้นเท่าใดก็ตาม แต่พลังของ ทุน หรือ เงิน ที่เกิดจากจุดมุ่งแห่งการแสวงหวัง กำไรสูงสุด อย่างไม่คำนึงและขลาดกลัวต่อศีลธรรมของระบบนี้ ก็สามารถทะลุทะลวงเอาชนะกฎกติกา และระบบความยุติธรรมทางสังคมที่เรียกว่า กฎหมาย ทุกบทลงได้เสมอมา
เรื่องนี้นับวันยิ่งเป็นที่ประจักษ์อย่างเป็นรูปธรรมโดยเฉพาะต่อคนกลุ่มใหญ่ของโลก ที่ไร้โอกาส ยากจนและ ล้าหลัง ในทุกด้าน เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ!
โดยเฉพาะในประเทศที่ระบบทุนนิยมผูกขาดแห่งโลกยุคปัจจุบัน(โดยมีคนกลุ่มเล็กๆจำนวนน้อยไม่กี่ตระกูลไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของโลกเป็นผู้กำหนดทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจอยู่เบื้องหลัง)กดขี่ลงเป็นทาสในนามของ ระบบบูชาความเสรี ที่บางทีอาจถูกสั่งสอนให้เรียกด้วยนามอันสวยงามดูดีว่า ระบบประชาธิปไตยเสรีนิยม
สิ่งนี้เป็นผลิตผลที่อาจกล่าวได้ว่าเป็น นวัตกรรม ของบรรดา ปราชญ์ ทั้ง หลายแห่งอัสดงคตประเทศ โดยเฉพาะบรรดา ปราชญ์ ของประเทศที่เป็นเป็น จักวรรดินิยม เก่ากลุ่มยุโรปอย่างอังกฤษและฝรั่งเศส ที่ไปปรากฏภาพลักษ์ชัดเป็น ลูกผสม อย่าง สหรัฐอเมริกา ในภายหลัง
บรรดารัฐชาติเล็กๆซึ่งถูกรัฐแบบจักวรรดินิยมแบบเก่าปล้นสะดมทั้งทางตรงและทางอ้อมมาอย่างยาวนาน กระทั่งถูกระบบทุนนิยมผูกขาดสมัยใหม่ปัจจุบันดูดดึงเข้าสู่วงจรอุบาทว์ของระบบเสรีนิยมแห่งโลกที่อยู่ในมือของกลุ่มคน ไม่รู้พอเพียงจำนวนน้อย(ผู้ โปรแกรม ระบบปลาใหญ่กินปลาเล็กหรือ มือใครยาวสาวได้สาวเอา) กลุ่มคนที่สะท้อนถึงความบ้าคลั่งระบบ อำนาจนิยม กลุ่มคนที่จิตใจปราศจากความเข้าใจเรื่อง สันติธรรม อย่างแท้จริง
สันติธรรม ที่บรรดาศาสดาทางจิตวิญาณ(มักก่อเกิดในดินแดนซีกโลกตะวันออก?)ได้สถาปนาขึ้นไว้เป็น ระบบศีลธรรมและจริยธรรม อันอันช่วยปกป้องกิเลสแห่งการเบียดเบียนและช่วยเยียวยาจิตวิญาณมนุษย์กันมาอย่างยาวนาน!
และสังคมไทยหลังการบุกโจมตีของ โควิด 19 วันนี้ ก็กำลังจะเผชิญกับภัยทางสังคม(ที่น่าจะร้ายแรงกว่าทุกยุคที่ผ่านมา)ที่จะเริ่มเกิดขึ้นแล้ว !!
เริ่มจากการว่างงานของคนจำนวนนับสิบล้าน ท่ามกลาง สังคมพุทธ ที่ล้มละลายทางศีลธรรมจริยธรรม มาอย่างต่อเนื่อง(อย่างน้อยก็ตั้วแต่เริ่มมีสิ่งที่เรียกว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ)ท่ามกลางสังคมชาวพุทธที่พ่ายแพ้ต่อระบบ เงินเป็นใหญ่กำไรสูงสุด พ่ายแพ้ต่อระบบที่เสรีอย่างไม่มีขอบเขตคือความถูกต้อง คนมือยาวสาวได้สาวเอา คนรวยมีอำนาจจนยากที่จะถูกลงโทษด้วยกฎหมาย(ที่มีมากมายละเอียดยิบ) ท่ามกลางสถานการณ์ทางสังคมที่บางใครบอกว่า หลายครั้งแยกไม่ออกโดยเนื้อหา ว่าตำรวจกับโจรแตกต่างกันอย่างไร?ฯลฯ
แล้วนายกฯลุงตู่คนดี คนเด็ดขาด(เสียงละสีหน้าสีตา?)ของเราละ?เตรียมตัวเตรียมความคิดในเรื่องนี้เอาไว้อย่างไรบ้าง ปรึกษาพี่ป้อมพี่ป๊อกแล้วยังว่าจะเลือก ทางทุน แบบอเมริกาของนายทรัมป์(ภายใต้การโปรแกรมของมาเฟียโลกตัวจริงคือองค์กรเจ้าโลกที่บางใครเรียกว่า Zionism?)หรือเส้นทางแบบ ระบบเศรษฐกิจพอเพียง ที่ล้นเกล้ารัชการที่ 9 พระราชทานไว้ให้?
เอ้า!!ลองมาพนันกันสักตั้งซิน่า!!(ก็เราอยู่เมืองไทยนี่ อะไรๆก็ต้องพนันอยู่แล้ว)!!!!