การเลือกตั้งซ่อม เขต 4 จ.ลำปาง จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน นี้แม้จะดูเหมือนว่าเป็นการชิงเก้าอี้ส.ส. เพียงที่นั่งเดียว แต่กลับมีความหมาย ไม่น้อย ! เมื่อ พรรคพลังประชารัฐ หมายมั่นปั้นมือว่า จะต้องได้เก้าอี้ ส.ส.เพิ่ม มาเติมให้กับพรรคและเสริมความแข็งแกร่ง ให้กับรัฐบาล จึงส่ง "วัฒนา สิทธิวัง" อดีตผู้สมัครของพรรคที่เคยทำคะแนนมาเป็นอันดับ 2 รองจาก แชมป์เก่าคือ"อิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์" ส.ส.ลำปาง เขต 4 พรรคเพื่อไทย ที่เสียชีวิตลง ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด อิทธิรัตน์ ไม่เพียงแต่เป็นแชมป์เก่าเท่านั้นหากแต่ยังเป็น "ทายาท" ของ "พินิจ จันทรสุรินทร์" อดีตส.ส.18สมัย เจ้าของพื้นที่ตัวจริง ซึ่งไม่สามารถเป็น "ความหวัง" ให้กับพรรคเพื่อไทยได้ เพราะพินิจ ตัดสินใจเอาโค้งสุดท้ายไม่ลงสมัครเลือกตั้งซ่อม ยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทย ตกอยู่ในสภาพ แพ้ตั้งแต่เริ่มต้น เนื่องจากไม่สามารถไปหาใครมาลงสมัครแทน ได้ทัน พรรคเพื่อไทย จึงต้อง "ขอบาย" โดยไม่ทันได้ลงสนาม ขณะที่พรรคเสรีรวมไทย น่าจะเป็น "ความหวังเดียว" ของพรรคฝ่ายค้านที่เปิดทางให้พรรคนี้ส่งผู้สมัครลงชิงเก้าอี้ คือ "ร.ต.ท.สมบูรณ์ กล้าผจญ" สวมเสื้อพรรค เพราะงานนี้พรรคก้าวไกล ไม่สามารถส่งผู้สมัครลงสนามได้ เนื่องจากติดขัดด้วยข้อกฎหมาย เนื่องจากพรรคก้าวไกลยังก่อตั้งไม่ถึง 90 วัน ก่อนถึงวันระเบิดศึกสนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 4 ที่ลำปาง รอบนี้ดูเหมือนว่า นอกจาก "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส" หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่ลุยลงไปช่วยลูกพรรคหาเสียงในพื้นที่อย่างต่อเนื่องแล้ว ยังน่าสนใจว่า "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกรัฐมนตรี และในฐานะ "ประธานยุทธศาสตร์" ของพรรคเองยังต้องลงพื้นที่ที่ลำปาง ด้วยการยกคณะไปติดตามสถานการณ์น้ำและการแก้ไขปัญหาภัยแล้งตามมาตรการของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา จนทำให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ออกมาส่งเสียงท้วงติง ว่า เป็นการแอบไปช่วยลูกพรรคหาเสียง ก่อนวันลงคะแนน หรือไม่ สนามเลือกตั้งเมืองลำปาง เขต 4 ครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐ จับจ้องเก้าอี้ ส.ส. กันตั้งแต่ไก่โห่ ตั้งแต่เมื่อครั้งมีข่าวสะพัดว่า เบื้องลึก เบื้องหลังการตัดสินใจของพินิจ ที่จะไม่ลงรักษาที่นั่งของลูกชาย นั้นเพราะ "มือดี" อย่าง "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รมช.เกษตรและสหกรณ์ และแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ได้ต่อสาย เปิดดีล เพื่อให้พินิจ "เปิดทาง" เอาไว้เรียบร้อยแล้ว ชัยชนะในเขต 4 ลำปาง จะต้องมาพร้อมๆกับ การฉลอง เก้าอี้ตัวใหม่ ของ บิ๊กป้อม ที่พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ "หัวหน้าพรรคคนใหม่" ไปในตัว เพื่อตอกย้ำว่า สนามการเมืองนั้นไม่ว่าจะเป็นสนามเล็ก หรือ สนามใหญ่ บิ๊กป้อม พี่ใหญ่คนนี้ก็พร้อมที่จะดูแลให้ได้ทั้งหมด !