สัญญาณความวุ่นวายกำลังส่อเค้าว่าจะไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่ "พรรคพลังประชารัฐ" เท่านั้น เมื่อ "อุตตม สาวนายน" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะ "รักษาการหัวหน้าพรรค" เรียกประชุมใหญ่พรรค ให้มีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ก็จะได้เห็น "โฉมหน้า" ของ คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ว่าจะตรงตามโผ ตามรายชื่อที่วางกันเอาไว้แล้วหรือไม่ ? จากนั้นอาจจะเกิดฝุ่นตลบอบอวลกันต่อที่พลังประชารัฐ อีกพักใหญ่ เพราะเมื่อมีการเลือกคณะกรรมการบริหารชุดใหม่กันแล้ว ก็ต้องมีคนที่พลาดหวัง มีคนที่อกหัก มีความสมหวัง หมายความว่า ความผิดหวังจากฝ่ายที่ "อกหัก" จะแปรเปลี่ยนไปสู่ "ความแค้น" ให้ต้องชำระความกันตามมาหรือไม่ เพราะจะกลายเป็น "ตัวแปร" ที่จะสะท้อนได้ว่า พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ "พรรคแกนนำรัฐบาล" จะรับมือเรื่องศึกใน ภายในพรรคให้จบลงโดยเร็วได้หรือไม่ และอย่างไร ต้องไม่ลืมว่า หากความวุ่นวายที่เกิดจาก ปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่มก๊วนการเมืองในพลังประชารัฐ ยังยืดเยื้อ จะกลายเป็น "จุดอ่อน" ที่ทำให้ทั้ง "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และในฐานะประธานยุทธศาสตร์ ของพรรค บริหารจัดการปัญหาการเมืองทั้งในพรรค ไปจนถึง "พรรคร่วมรัฐบาล" เป็นไปได้ยากมากขึ้น จนกลายเป็น ตัวฉุดรั้งการทำงานของ "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้มีอันต้อง "สะดุด" เมื่อ "2 ป." ทั้งบิ๊กป้อม และพล.อ.ประยุทธ์ จะต้องหันเห มาวุ่นวายอยู่กับการแก้ปัญหาทางการเมือง ในพลังประชารัฐ ควบคู่ไปกับการจัดเก้าอี้ "รัฐมนตรี" ใน ครม. เมื่อที่สุดแล้ว ไม่สามารถหลีกเลี่ยง "ไฟต์บังคับ" ต้องยอมให้มีการปรับ ครม. ไปสู่ "ประยุทธ์ 2/2" ขึ้นมาจริง ล่าสุดทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย รวมทั้งพรรคชาติพัฒนา เองต่างส่งสัญญาณในทิศทางเดียวกันว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันเรื่องปรับ ครม. และขอให้เป็นอำนาจการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ "หัวหน้ารัฐบาล" เพียงคนเดียวก็ตาม ทว่าในความเป็นจริงแล้ว บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลแทบทุกพรรค ต่างรอฟังสัญญาณว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะส่งซิกมาเมื่อใด และยังเป็นเรื่องที่เป็นได้ยาก ว่าทุกอย่างให้ขึ้นอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียวก็ตาม แต่อย่าลืมว่าตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้น ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างมีนัยสำคัญต่อการที่พรรคภูมิใจไทย รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล พรรคอื่น ต่างได้ ส.ส. เข้ามาเพิ่มเติมจำนวนเก้าอี้ ส.ส.ในสภาฯ ทำให้หลายพรรคมี ส.ส.เพิ่มมากขึ้น ถ้าเป็นเช่นนั่นย่อมหมายความว่า การจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีใน ครม. จะต้องมาหารือแบ่งโควต้ากันใหม่ ด้วยหรือไม่ แน่นอนว่าสถานการณ์เช่นนี้ คือระเบิดเวลาที่รอทั้ง บิ๊กป้อมและบิ๊กตู่ มาจัดการว่าจะ "แก้เกม"กันอย่างไร จึงจะสามารถอยู่ร่วมกันบน "เรือเหล็ก" ไปได้ตลอดรอดฝั่ง !