สถาพร ศรีสัจจัง ในวาระเช่นนี้ ถ้าไม่พูดถึง “3 ปี คสช.” สักหน่อย ก็คงออกจะเชยเสียละมั้ง? เพราะเรื่องนี้ไม่สามารถละเลยได้จริงๆ !v เรื่องอื่นที่เป็น “กระแส” (ยุคตลาดเงินเป็นใหญ่ปั่นหุ้นได้!) อาจจะละเลยเสียก็ได้ เพราะในระบบทุนนิยมนั้น เรื่องไหนก็ตามที่ไม่สามารถก่อ “กระแส” ให้ครึกโครมขึ้นได้ก็ยากที่จะทำให้คนแห่ไปซื้อ ไปรับรู้ ไปเที่ยว หรือไปสารพัดที่จะทำให้เจ้าของ “กระแส” นั้นๆได้ประโยชน์ ดังนั้นในสังคม “เงินเป็นใหญ่ กำไรสูงสุด” อย่างสังคมไทยปัจจุบัน ใครหรือองค์กรใดที่สามารถใช้เครื่องมือของระบบทุนคือ “สื่อ” (ปัจจุบันต้องเป็น'ดิจิตอล “ประเภท” โซเชียล เน็ทเวิอร์ค') สร้าง “เรื่อง” จนเกิดเป็น “กระแส” ขึ้นในหมู่ชนหรือ “มวลชน” (Mass)ได้สำเร็จ ก็เชื่อขนมกินได้ล่วงหน้าเลยว่าเรื่องนั้นต้องทำ “กำไร” ให้เจ้าของเรื่องหรือผู้เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน แม้ในตอนลงเอยจริงๆของเรื่อง เจ้าของเรื่องอาจต้องไปนอนเสวยข้าวแดงอยู่ในคุก หรือต้องเข้าเมรุก่อนเวลาอันควร หรือ อาจต้องเสวยวิบากตาม'กรรม'ที่ก่อขึ้นระหว่างเส้นทางก็ตาม ฯลฯ นักร้องหลายคนที่ดังมาเพราะได้ “หลายล้านวิว” มาจาก “ยูทูบ” ชั่วข้ามคืนบางคนฉายชะตากรรมเช่นที่ว่านี้ให้เห็นบ้างแล้ว เพราะพอเลย'จุดดัง'แล้วยังตั้งชีวิตอยู่บนความประมาทลืมตัวตน !                       เตลิดออกทะเลไปเสียไกล กลับมาที่ผลงาน “ 3 ปี คสช.” ของนายกฯลุงตู่ คนห้าวใจดี'ของเราดีกว่า มาดูกันซิว่า จะออกหัวหรือก้อย หรือจะได้แค่หมู่กับจ่า ? กล่าวโดยสรุปเสียทีเดียวก็แล้วกัน เพราะเพียงวันที่ 22 พฤษภาคม 2560 วันเดียว บรรดาผู้ทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้อง ทั้งที่เจตนาดีและไม่ดี ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ฯลฯ ต่างร่วมกัน “สะกรัม” แบบถ้าคสช.เป็นคนก็ต้องบอกว่าเกือบจะ “อ่วม” หรือ “น่วม” ทีเดียวเชียวแหละ! ผลสรุปจากการประเมินที่สั้นที่สุดก็คือเรื่องความมั่นคงสอบผ่าน แต่เรื่องเศรษฐกิจสอบตก! ท่ามกลางเสียงบอมส์เสียงระเบิดแสวงเครื่องที่ดังขึ้นในมหานครกรุงเทพฯเมืองฟ้าเมืองอมรเหมือนเสียงเห่าขู่ ระลอกแล้วระลอกเล่า มาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน จนพอถึงพฤษภาคมที่เป็นเดือนครบ 3 ปีคสช.ก็เล่นในเขตที่จะจัดงานออกพระเมรุฯ กันทีเดียว วันที่ 22 พฤษภาฯอันเป็นวันคสช.ยึดอำนาจรัฐครบ 3 ปีเต็มก็ลูบจมูกคสช.เล่นโดยวางบอมส์ในเขตทหารที่มีชื่อสกุล “วงษ์สุวรรณ” ปรากฏหราเด่นอยู่  นั่นคือวางระเบิดห้องรับรอง “วงษ์สุวรรณ” ในโรงพยาบาลพระมงกุฎฯของกองทัพบก จนคนแก่คนป่วยเจ็บกระจาย !! หรือเพิ่งจะสอบตกเรื่องความมั่นคงในวินาทีสุดท้ายนี้เอง?! เรื่องออกกฎหมายก็เช่นกัน ในรอบ 3 ปี สนช.ของ คสช.ออกกฎหมายก้าวหน้ามาแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศฉบับแล้วฉบับเล่า ที่โดดเด่นก้าวหน้าแบบที่ไม่เคยมีรัฐบาลไหนกล้าออกมาก่อน ซึ่งควรถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงก็มี เช่น กฎหมายมรดก หรือ กฎหมายเกี่ยวกับที่ดิน เป็นต้น  บรรดา “เกจิ” นักประเมินผล(ยกเว้นนักการเมืองอาชีพ/พรรคการเมือง/และบรรดาผู้ประกาศตัวเป็น “ข้าศึก” มาแต่ต้น ฯลฯ) ส่วนใหญ่จึงล้วนประเมิน “3 ปี คสช.” ออกมาในเชิงบวก แต่มักแถมท้ายคำว่า “แต่ไม่สุด” พ่วงไว้ด้วย !! ที่ “ไม่สุด” อย่างสำคัญดูเหมือนมักเกี่ยวกับ “การจัดการ” เรื่อง “ความยุติธรรมทางสังคม” เรื่อง“สองมาตรฐาน” (ระหว่างคนรวยกับคนจน) เรื่อง “รวยกระจุกจนกระจาย” เรื่อง “ความเอาจริงเอาจังในการบังคับใช้กฎหมาย” ฯลฯ ดังตัวอย่างเช่น ความล่าช้าเรื่องการเก็บภาษีมรดกจนคนรวยย้ายหุ้นกันหมด เรื่องการตามจับคนทำผิดกฎหมายที่เป็นคนรวย ตั้งแต่อดีตนักการเมืองทั้งหลาย จนถึงบรรดาลูกเศรษฐี เรื่องปล่อยปละละเลยให้พวกทำผิดกฎหมายหนีไปต่างประเทศง่ายๆ ฯลฯ.  นั่นไง หรือเรื่องพวกนี้ก็ยังต้องการใบเสร็จอยู่อีก?