เมื่อนักการเมืองพากันเปิดหน้าซัดกันจนฝุ่นตลบ !
เมื่อ "กลุ่มสามมิตร" เปิดหน้าสนับสนุน "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรคให้ก้าวขึ้นไปนั่ง "หัวหน้าพรรคคนใหม่" แทน "คนปัจจุบัน" ที่ชื่อ "อุตตม สาวนายน" รมว.คลัง ที่ยังรักษาการหัวหน้าพรรค ท่ามกลางแรงกดดันจากกลุ่มสามมิตร ให้ลุกออกไป
นั่นหมายความว่า เวลานี้ เสียงห้ามปราม จาก "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คงไม่สามารถสกัดหรือทำให้คลื่นลมภายในพรรคพลังประชารัฐสงบลงได้อีก
ยิ่งเมื่อยามนี้ กลุ่มสามมิตรประเมินแล้วว่า ถ้าจะตีเหล็ก ก็ต้องตีเมื่อตอนที่ยังร้อน เมื่อเปิดเกมไล่ "กลุ่มสี่กุมาร" ให้ลุกจากที่นั่งหลักๆในพรรคพลังประชารัฐแล้ว ต้อง "รุกไล่" กันต่อด้วยการจี้ให้ "ปรับ ครม."
เพราะหากปล่อยให้วันเวลาเนิ่นนาน ทอดยาวออกไป โอกาสที่เกมการเมือง จะ "พลิกล็อก" ก็ย่อมเป็นไปได้สูง !
อย่าลืมว่า กว่าที่จะมีรายชื่อกรรมการบริหารพรรค ส่งใบออกจำนวน 18 คน เพื่อบีบให้อุตตม เรียกประชุมใหญ่พรรค โดยไว อย่างน้อยที่สุด ก็น่าจะเป็นหลังจากที่มีการประกาศยกเลิกบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้มีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
โดยกลุ่มสามมิตรแบะท่าหนุนพล.อ.ประวิตร พร้อมกันนี้ยังมีการโยนชื่อ "อนุชา นาคาศัย" รองประธานยุทธศาสตร์พรรค แกนนำของกลุ่มสามมิตร จ่อลงมานั่งเลขาธิการพรรค แต่อนุชา ยังต้องเจอกับแคนดิเดตที่ไม่อาจมองข้าม คือ "สันติ พร้อมพัฒน์" รมช.คลัง และแกนนำกลุ่มเพชรบูรณ์
แต่ดูเหมือนว่า ขณะที่กลุ่มสามมิตร พากันเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก ปรากฎว่ากลุ่มสี่กุมาร กลับอยู่ในอาการ "นิ่งเงียบ" แม้แต่ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกฯ ซึ่งดูแลรัฐมตรีของกลุ่มสี่กุมาร เอง ก็ปฏิเสธที่จะตอบทุกคำถามที่เชื่อมโยงกับความวุ่นวายภายในพรรค
เกมวันนี้ จึงอยู่ที่ว่า ทำอย่างไร อุตตม ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค จะออกมาพูดถึงวันเรียกประชุมใหญ่ของพรรค
รวมทั้ง ฝ่ายที่ต้องการให้ปรับ ครม. เมื่อภายหลังพรรคพลังประชารัฐ ได้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เสร็จสิ้นไปแล้วนั้น จะมีขึ้นเมื่อใด และแน่นอนว่า ต้องรอฟังสัญญาณจาก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหลัก
ทว่า นอกอุตตม จะปิดปากเงียบแล้ว ล่าสุด ยังไม่มีสัญญาณจากทั้ง บิ๊กตู่และบิ๊กป้อม ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งแห่งหนใน ครม.กันอย่างไรแล้ว ยังบอกสั้นๆว่า วันนี้ปัญหาภายในพรรค จบแล้ว !
การปรับ ครม. ถือเป็น ไฟท์บังคับที่จะต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว เพราะปัจจัยทั้งภายในพรรคพลังประชารัฐเองที่เปิดศึกงัดข้อกันจนคุกรุ่น กำลังผสมกับความเคลื่อนไหวของ "พรรคร่วมรัฐบาล" เองที่เคยพลาดหวังจาก การจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีกันมาแล้ว เมื่อครั้งตั้ง ครม. "ประยุทธ์2/1"
โดยเฉพาะ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย เองใช่ว่า จะไม่ต้องการขยับขยาย ยิ่งเมื่อพรรคภูมิใจไทยที่บัดนี้มีส.ส.ในพรรคเพิ่มมากขึ้น เมื่อครั้งพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ จนทำให้พรรคภูมิใจไทย กลายเป็นพรรคอันดับสอง ภายในพรรคร่วมรัฐบาล
ดังนั้น "อำนาจต่อรอง" ของภูมิใจไทย ก็ควรที่จะต้องเพิ่มมากขึ้นไปด้วยหรือไม่ แต่ล่าสุด "อนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรค และรองนายกฯ ในฐานะ รมว.สาธารณสุข เองก็ยังบอกกับสื่อว่า นายกฯยังไม่มีสัญญาณเรื่องการปรับ ครม.มาแต่อย่างใด
เวลานี้เชื่อเถอะว่า ไม่ใช่แค่เพียงกลุ่มสามมิตร เท่านั้นที่กำลังรอสัญญาณจาก บิ๊กตู่ ว่าจะปรับ ครม.กันเมื่อใด !