รศ.ดร.ไชยา ยิ้มวิไล สัปดาห์ที่ผ่านมามีเหตุการณ์สำคัญอยู่สองประการ ที่ต่อเนื่องมาโดยตลอด ไม่ว่า “เหตุการณ์รัฐประหาร” ที่ “ประเทศตุรกี” หรือ “โดนัลด์ ทรัมพ์ เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน” ว่าไปแล้วทั้งสองเหตุการณ์นับว่ามีความสำคัญกับโลกอย่างแน่นอนทั้งในปัจจุบันและอนาคต มาว่ากันกับกรณี “รัฐประหารที่ตรุกี” กันก่อนดีกว่า ที่ไม่น่าเชื่อว่า “ล้มเหลว!” หลังจากที่ทางกองทัพได้พยายามซุ่มโค่นล้มอำนาจของประธานาธิบดีเรเซป เตย์ยิบ เออร์โดวาน พร้อมภรรยาที่ฟุ่มเฟือยอย่างมากด้วยการปลูก “วัง” ขนาดวอลเปเปอร์ติดห้องน้ำทอด้วยไหมราคาม้วนละ 2,000 ปอนด์ กับคฤหาสน์ หรูที่ราคาน่าจะประมาณ 500 กว่าล้านปอนด์ ขนาดบ้านพักรับรองของอดีตผู้นำอิรัก ซัดดัม ฮุสเซน ยังเป็นรองเล๊ย! ทั้งนี้ นั่นอาจเป็นข่าวแท๊ปลอยด์ชื่อดังของอังกฤษ “เดลี่เมล”ที่พอเชื่อถือได้ ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเออร์โดวาน มีสมบัติมากมายเป็นมูลค่า 139 ล้านปอนด์ และวังอีก 3 หลัง ขณะที่ภรรยาของเขารักการช็อปปิ้งและเป็นสะสมของเก่า โดยเธอเคยสร้างความโกลาหลมาแล้ว ด้วยการทำให้ศูนย์การค้าในกรุงบรัสเซลส์ต้องปิดเพื่อให้เธอช็อปให้หนำใจ และในระหว่างติดตามสามีไปเยือนกรุงวอร์ซอว์ของโปแลนด์ เธอยังช็อปของเก่ารวดเดียวถึง 37,000 ปอนด์ขณะที่ประชากร 1 ใน 4 ของประเทศ มีชีวิตยากจนสุดขีดและเกือบ 2 ล้านคน มีรายได้วันละแค่ 3 ปอนด์ ด้านนิตยสารฟอร์บส รายงานว่า นายเออร์โดวานวัย 62 ปี ติดอันดับนักการเมืองที่มีรายได้สูงที่สุด โดยรายได้จากการดำรงตำแหน่งอยู่ที่ 43.2 ล้านปอนด์ ขณะที่ทรัพย์สินส่วนตัวมีมากกว่า 139 ล้านปอนด์ มาจากการลงทุนในตลาดหุ้น กับธุรกิจและการลงทุนอื่นๆ ที่เขาเป็นเจ้าของร้านอาหารหลายแห่งและทีมฟุตบอลอิสตันบุล แองเจลส์ ในอังการา แถมยังมีวอดก้าที่เป็นแบรนด์ของเขาเองด้วย วิกิลีกส์ สื่อออนไลน์ที่มุ่งเปิดข้อมูลรัฐบาล แจ้งผ่านทวิตเตอร์ว่า ได้เผยแพร่อีเมล์จาก “พรรคการพัฒนาและความยุติธรรม (เอเคพี)” ซึ่งเป็น “พรรครัฐบาลตุรกี” รวมทั้งสิ้น 294,548 ฉบับ และเอกสารแนบอีกหลายหมื่นจากกล่องที่อยู่อีเมล์ 762 กล่องที่เโยงกับโดเมนของพรรคเอเคพี อีเมล์เหล่านั้น ซึ่งวิกิลีกส์จัดทำเป็นฐานข้อมูลให้สืบค้นได้ มักใช้เพื่อติดต่อกับต่างประเทศ ไม่มีประเด็นอ่อนไหวภายใน โดยอีเมล์ฉบับหลังสุดเพิ่งส่งเมื่อ 6 กรกฎาคม เก่าสุดย้อนหลังถึงปี 2553 ทั้งหมดได้มาราวหนึ่งสัปดาห์  ก่อนมีความพยายามรัฐประหารเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว แต่วิกิลีกส์ตรวจสอบแล้วยืนยันว่า แหล่งข่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลเบื้องหลังการก่อรัฐประหาร พรรคการเมืองหรือรัฐคู่อริ และขอให้ชาวตุรกีช่วยกันหาทางส่งต่อข้อมูลชุดนี้ ส่วนที่ตุรกี การถอนรากถอนโคนผู้ไม่ภักดีกับประธานาธิบดีเรเซป เตย์ยิป เออร์โดวาน แต่ฝักใฝ่ศัตรูอย่าง “นายเฟตุลเลาะฮ์ กูเลน” นักการศาสนาที่ลี้ภัยตัวเองอยู่ในสหรัฐ ขยายไปยังแวดวงการศึกษาและสื่อแล้ว และยอดผู้ที่ถูกจับกุม พักงาน ปลดและไล่ออก พุ่งกว่า 5-6 หมื่นคน สื่อในตุรกีรายงานเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลสั่งพักงานครูและบุคลากรด้านการศึกษาของรัฐ 15,200 คน สั่งคณะบดีมหาวิทยาลัยเอกชนและของรัฐลาออก 1,577 คน ปลดเจ้าหน้าที่และลูกจ้างกระทรวงมหาดไทย 8,777 คน กระทรวงการคลัง 1,500 คน และเจ้าหน้าที่ในสำนักนายกรัฐมนตรี 257 คน ตลอดทหารและตำรวจ ตัวเลขน่าจะประมาณ 60,000 กว่าคน ด้านองค์กรกำกับดูแลสื่อของตุรกี สั่งเพิกถอนใบอนุญาตสถานีวิทยุ-โทรทัศน์ ที่เชื่อว่าเป็น “พวกกูเลนนิสต์” หรือผู้สนับสนุนนายกูเกน รวม 24 แห่ง และยึดบัตรสื่อของนักข่าว 34 คน การเดินหน้ากวาดล้างผู้ที่เชื่อว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรัฐประหารครั้งใหญ่เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 232 คนมีขึ้นในขณะที่ชาติพันธมิตรตะวันตกของตุรกีแสดงความวิตกกังวลมากขึ้นที่ตุรกีอาจนำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้ ซึ่งล่าสุดในวันนี้ ประธานาธิบดี ไตยิบ เออร์โดกัน ของตุรกีก็ประกาศแล้วว่า หากสภาผ่านร่างกฏหมายให้นำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้ เขาก็จะอนุมัติเห็นชอบ คำยืนยันของประธานาธิบดีเออร์โดกัน มีขึ้นในระหว่างการชุมนุมสนับสนุนเขาที่นครอิสตันบูล นักวิเคราะห์หลายคนหวั่นเกรงว่า ประธานาธิบดีเออร์โดกัน จะใช้โอกาสนี้ทำให้อำนาจของตนมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อกลุ่มที่มีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกัน ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตุรกีจะยิ่งทำให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้นในยุโรป นั่นคือ เหตุการณ์ที่เราต้องติดตามกันต่อไปว่า เกิดอะไรขึ้นกับ “รัฐประหาร” ที่ตุรกีที่ไม่ได้เกิดมา 36 กว่าปีแล้ว และผู้นำจะพยายามปรับปรุงการฟุ่มเฟือยของตนเอง หรือไม่พร้อมทั้ง “ประกาศสภาวะฉุกเฉิน” ประเทศไปอีก 3 เดือน เอาล่ะ มาว่ากันต่อถึงการเลือกตัวแทนพรรครีพับลิกันที่เลือกนายโดนัลด์ ทรัมพ์ ที่ได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน ด้วยการประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกัน ที่เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ดำเนินเข้าสู่วันที่ 3 แล้ว ที่มีการเปิดตัว “นายไมค์ เพนซ์ ผู้ว่าการรัฐอินเดียน่า” เป็นคู่หูชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ  นายไมค์ เพนซ์ ผู้ว่าการรัฐอินเดียนา กล่าวตอบรับการเสนอชื่อของทรัมป์อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นคู่หูชิงเก้าอี้รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของคณะผู้แทนหรือดิลิเกต ที่เข้าร่วมประชุมกันเต็มสนามกีฬา ควิเคน โลนส์ อารีน่า เพนซ์ ทั้งนี้ เพนซ์ เป็นนักการเมืองแนวอนุรักษ์นิยม ที่มีผลงานดีเยี่ยม เกี่ยวกับการสร้างงานให้กับคนในรัฐอินเดียนา แม้ว่าหลายคนจะมองว่ามีบุคคลิกที่ตรงกันข้ามกับทรัมป์ แต่เพนซ์ บอกว่าจะร่วมกันกับทรัมป์ ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และยังเรียกร้องให้คนในพรรครีพับลิกัน รวมกันเป็นหนึ่ง เพื่อต่อสู้กับนางฮิลลารี คลินตัน ว่าที่ตัวแทนพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทันทีที่เพนซ์พูดบนเวทีจบ ทรัมป์ได้เดินขึ้นเวทีมาปรากฎตัวร่วมกับเพนซ์เป็นครั้งแรก ในการประชุมใหญ่พรรคครั้งนี้  และล่าสุดและอีกหนึ่งไฮไลท์ ที่หลายคนจับตา นั่นก็คือ นายเท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกรัฐเท็กซัส คู่แข่งของทรัมป์ในการเลือกตั้งขั้นต้น ได้ขึ้นกล่าวบนเวที เพียงแค่แสดงความยินดีกับทรัมป์ที่ได้เป็นตัวแทนพรรค แต่ปฎิเสธที่จะประกาศสนับสนุนทรัมป์อย่างเป็นทางการทำให้ดิลิเกตที่สนับสนุนทรัมป์ ไม่พอใจ ต่างส่งเสียงโห่ ขณะที่ทรัมป์ ตัดสินใจออกมายืนปรากฎตัว และ โบกมือ อยู่บริเวณอัฒจรรย์ที่นั่งของเวที ทำให้เหตุการณ์ทุกอย่างสงบลง ด้านนายนิวต์ อิงริช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกมาปกป้องการกระทำของครูซและพยายามทำให้เห็นว่าพรรครีพับลิกันยังรวมกันเป็นหนึ่ง!?!