ทีมข่าวคิดลึก
การออกมาแถลงข่าวจาก "ว่าที่หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา" อย่าง "ท็อป"วราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีนัยที่น่าสนใจและต้องจับตาด้วยกันหลายมิติ
แม้ก่อนหน้านี้ต้องยอมรับว่ากระแสข่าวที่ "พรรคชาติไทยพัฒนา" จะถูกเทกโอเวอร์โดย "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี จะเคยเกิดขึ้นมาแล้ว นับตั้งแต่วันที่สิ้น "บรรหาร ศิลปอาชา"อดีตเจ้าของพรรคตัวจริงผู้ล่วงลับ แต่ทว่ากระแสยังไม่แรงมากพอที่จะทำให้ ท็อป วราวุธ ต้องออกมาปฏิเสธ เสียงดังฟังชัดว่าพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ใช่บริษัทที่จะให้ใครมาเทกโอเวอร์ กันง่ายๆ !
ในความเป็นจริงแล้ว การออกมาตั้งโต๊ะเพื่อแถลงข่าวครั้งนี้ ยังมองได้ว่าทางหนึ่งเพื่อเรียกความเชื่อมั่นในยามที่ไร้บรรหาร เพราะพรรคอาจไม่ได้กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกเหมือนเคย หากเงื่อนไขสำคัญที่พรรคต้องรักษาจุดยืนเอาไว้นั่นคือการเป็น "พรรคตัวแปร"ในการจัดตั้งรัฐบาลไม่ว่าจะฟากไหน ขั้วอำนาจใด ต้องมีพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นตัวแปรหลัก
แต่ขณะเดียวกันดูเหมือนว่า การแถลงข่าวของว่าที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ "ไมตรี" จากพรรคเพื่อไทยอย่างชัดเจน แม้ในท่ามกลางกระแสข่าวที่สะพัดว่า ทักษิณ จ้องจะเทกโอเวอร์พรรคชาติไทยพัฒนาก็ตาม
เพราะวราวุธ ตอบคำถามที่ว่า ในอนาคตมีโอกาสที่พรรคชาติไทยพัฒนากับพรรคเพื่อไทยจะทำงานร่วมกันหรือไม่ว่า "เรื่องนี้เป็นเรื่องอนาคต เพราะการร่วมกันเป็นพรรคร่วมรัฐบาลถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง การร่วมกันเป็นพันธมิตรในทางการเมืองก็ไม่ได้หมายความว่าต้องเข้ามาเทกโอเวอร์แต่อย่างใด"
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทางการเมืองในวันนี้ หลายพรรคการเมืองต่างยอมรับว่า พวกเขาไม่สามารถ "กำหนดเกมยาว" ด้วยการวางแผนการเล่นเพียงครั้งเดียวหรือดำเนินรูปแบบการจัดทัพเพียงคราวเดียว แล้วจะสามารถได้ข้อยุติทุกอย่าง เนื่องจากยังมีอีกหลายเงื่อนไขหลายปัจจัยที่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ทุกเมื่อ !
นั่นหมายความว่าสถานการณ์ทางการเมือง จะเป็นตัวกำหนดเกม ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง ตามโรดแมปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
แผนการเล่นของแต่ละพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคที่มีอยู่เดิมย่อมต้องคำนึงถึงปัจจัยแวดล้อมไปจนถึง "อนาคตทางการเมือง" ที่จะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย สองพรรคการเมืองใหญ่ จะเดินหน้าและขยับอย่างไร เพื่อให้พรรคสามารถเป็นฝ่ายกุมอำนาจรัฐหลังการเลือกตั้ง
เพราะการเลือกตั้งในช่วงของการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง จากรัฐบาลรัฐประหาร ไปสู่รัฐบาลจากการเลือกตั้งรอบนี้นั้น ลำพังชัยชนะจากการได้เป็นพรรคอันดับหนึ่งจากสนามเลือกตั้ง อาจยังไม่ใช่"คำตอบสุดท้าย" ที่จะชี้ว่าพรรคอันดับหนึ่ง จะได้จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ?!
คลื่นลมที่เกิดขึ้นกับพรรคชาติไทยพัฒนา ครั้งนี้ อาจเป็นเพียงแค่ลมพัดผ่านเพราะ "พายุใหญ่"ที่รออยู่เบื้องหน้า อาจรอถล่มที่พรรคการเมืองเป้าหมาย ไม่ให้มีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาลต่างหาก !