ทีมข่าวคิดลึก
สนามการเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แม้จะเป็น "สนามเล็ก"แต่กลับเป็น "สังเวียน" ที่ทุกพรรคการเมือง ทุกขั้วอำนาจไม่เคยมองข้ามไปได้สักครั้ง !การเปลี่ยนแปลงอำนาจหน้าที่บนเก้าอี้ "ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร" มีขึ้นปัจจุบันทันด่วนเมื่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้มาตรา 44 ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ ส่งผลให้ "พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง"พาสชั้นจากรองผู้ว่าฯ กทม. ก้าวขึ้นมารับหน้าที่ "ผู้ว่าฯ กทม." แทนที่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ตั้งแต่วันที่มีคำสั่ง คือ 18 ต.ค.2559 เป็นต้นมา
ผ่านพ้นระยะเวลายาวนานกว่าครึ่งปีที่ พล.ต.อ.อัศวิน รับหน้าที่ผู้ว่าฯกทม. ดูจะมีความโดดเด่นชัดเจนมากขึ้นทุกขณะ จนไม่อาจปฏิเสธว่า วันนี้พรรคการเมืองใหญ่ที่หมายตาจะคว้าเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. คนต่อไป หรือแม้แต่จับจ้องเขตเลือกตั้ง ส.ส. ในพื้นที่ กทม.ย่อมต้องโฟกัสไปยัง พล.ต.อ.อัศวิน ในฐานะแคนดิเดตคนสำคัญ
ก่อนหน้านี้เคยมีกระแสไปไกลจนถึงขนาดที่ว่า ด้วยผลงานและความโดดเด่นของ พล.ต.อ.อัศวิน ในช่วงระยะเวลากว่า 6 เดือนที่ผ่านมานั้นอาจทำให้เขาได้รับไฟเขียวให้นั่งทำงานต่อเพราะผลงานเข้าตา คสช. นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีข่าวกระเซ็นกระสายออกมาในอีกทางหนึ่งว่า พล.ต.อ.อัศวิน นั้นสามารถเป็นแคนดิเดตได้ทั้งจากในนามพรรคประชาธิปัตย์ หรือจาก คสช.อีกด้วย
อย่างไรก็ดี สำหรับพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ในฐานะต้นสังกัดของแชมป์เก่า เคยส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ลงชิงชัยเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. จนสามารถเอาชนะมาได้ในอดีต ย่อมต้องมองเกมยาวสำหรับสนาม กทม. ว่าการเลือกส่งตัวแทนของพรรคสไตล์ไหน จึงจะสามารถ "ตอบโจทย์" คนกรุงเทพฯ ได้มากที่สุด
และในขณะเดียวกันยังต้องประเมินสถานการณ์ของฝ่ายตรงข้ามคือ"พรรคเพื่อไทย" ด้วยว่า ที่สุดแล้วจะส่ง "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงสนามตามที่เคยปรากฏเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้จริงหรือไม่ ?
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เองมีกระแสข่าวที่สะพัดมาก่อนหน้านี้ไม่แพ้กันว่า ที่สุดแล้วพรรคอาจเลือก"นวลพรรณ ล่ำซำ" ผู้หญิงเก่งจากวงการฟุตบอลหญิง และนักธุรกิจหญิงบุตรสาวของ "โพธิพงษ์ ล่ำซำ" อดีตรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของประชาธิปัตย์ ให้นวลพรรณสวมเสื้อพรรคลงสนามชนกับชัชชาติ จากเพื่อไทย
แต่วันนี้ดูเหมือนว่าโจทย์และเงื่อนไขปัจจัยหลายอย่างที่เกิดขึ้นหลังการเข้ามากำกับดูแลงาน กทม. ของพล.ต.อ.อัศวิน อาจทำให้ทั้งพรรคประชาธิปัตย์และเพื่อไทย ต้องประเมินสถานการณ์กันใหม่ว่าโอกาสที่จะเอาชนะ พล.ต.อ.อัศวิน นั้นจะทำได้อย่างราบรื่นและง่ายดายอย่างนั้นหรือ
เพราะต้องไม่ลืมว่า พล.ต.อ.อัศวิน นั้นมีโอกาสได้ทำแต้มต่อ สร้างผลงานล่วงหน้าไปเรียบร้อยแล้วตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังน่าสนใจว่า การช่วงชิงเอาชัยชนะจากเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.รอบนี้ทั้งประชาธิปัตย์และเพื่อไทยอาจต้องเจอกับโจทย์ข้อยากมากขึ้นโดยเฉพาะประชาธิปัตย์นั้นจะเลือกเล่นเกมในสนามเล็กรอบนี้อย่างไรเพราะแม้จะดูว่ามีข้อได้เปรียบเหนือกว่าพรรคเพื่อไทย ตลอดจนคู่แข่งหน้าใหม่ที่เตรียมประกาศลงสู้ศึก กทม. ก็ตาม
ทว่า จนถึงนาทีนี้ พรรคประชาธิปัตย์เองยังไม่แน่ใจว่า เมื่อเกมเดินมาถึงช็อตสุดท้ายแล้ว คสช. จะกดปุ่มเช่นใด
หรือหาก คสช. ยอมไฟเขียวให้มีการเลือกผู้ว่าฯ กทม. ได้ตามวาระแต่ประชาธิปัตย์จะแก้ปัญหา "เสียงแตก" ได้หรือไม่ หากนวลพรรณต้องลงมาชนกับ พล.ต.อ.อัศวิน กันจริงๆ?!