แก้วกานต์ กองโชค คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 39/2559 เรื่อง การจัดระเบียบและแก้ปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันการศึกษา ข้อ 9 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “ให้รัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการโดยคำแนะนำของคณะกรรมการการอุดมศึกษามีอำนาจสั่งให้ผู้ดำรงตำแหน่งใดในสถาบันอุดมศึกษาหยุดการปฏิบัติหน้าที่ พ้นจากตำแหน่งหน้าที่หรือให้ไปปฏิบัติงานในหนวยงานแห่งอื่น และแต่งตั้งหรือมอบหมายให้บุคคลหนึ่งหรือหลายคนเข้าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งต่างๆในสถาบันอุดมศึกษานั้น ในกรณีที่นายกสภาสถาบันอุดมศึกษาและกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาแห่งใดต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่หรือพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ทั้งคณะ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกสภาสถาบันอุดมศึกษาแลกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาแห่งนั้นจำนวนไม่น้อยกว่าห้าคนแต่ไม่เกินสิบห้าคน” มาตรานี้แหละที่ทำให้ “รมว.ศึกษาธิการ” มีอำนาจเปลี่ยนแปลง “นายกสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี หรือผู้บริหารตำแหน่งต่างๆ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่มีความขัดแย้งระหว่างฝ่ายนโยบาย และฝ่ายบริหาร จนมีข้อเรียกร้องให้ รมว.ศึกษาธิการ ใช้อำนาจแก้ไข “ปัญหาความขัดแย้ง” ของมหาวิทยาลัยนครพนม โดยถึงขนาดนักศึกษาชูป้ายขับไล่ “นายกสภามหาวิทยาลัย” ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิช ทองโรจน์ กระทั่งมีกรตอบโต้จาก “กรรมการสภามหาวิทยาลัย” ว่า การชุมนุมขับไล่นายกสภามหาวิทยาลัยมาจากการจัดตั้งของคน 3 กลุ่ม ได้แก่ คณะครุศาสตร์ สายคณบดีวิทยาลัยพยาบาลฯ และจากกลุ่มบุคลากรสายอาชีวศึกษาในสังคม มหาวิทยาลัยนครพนม พร้อมระบุอีกว่า คณบดีวิทยาลัยพยาบาลฯ สั่งให้นักศึกษาหยุดการเรียนการสอนเพื่อนำนักศึกษาไปร่วมประท้วง สื่อรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2560 มีการประชุมสภามหาวิทยาลัยนครพนมนัดพิเศษ โดยมีเปลี่ยนที่ประชุม ถึง 3 ครั้ง จากเดิมจะจัดที่โรงแรม 2 แห่ง มาเป็นที่ศูนย์ประสานงานมหาวิทยาลัยนครพนม ถนนแจ้งวัฒนะ เพราะเจ้าของสถานที่ขอให้งดจัดประชุม หลังรับแจ้งว่า มีกลุ่มคัดค้านมาชุมนุม ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิช บอกกับนักข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการสภา มนพ. วาระพิเศษ ว่า “ในการประชุมสภาฯ ครั้งนี้มีกรรมการสภาฯ เข้าประชุมทั้งหมด 13 คน ถือว่าเข้าประชุมครบองค์ประชุม จากกรรมการปัจจุบันที่เหลือ 16 คน ซึ่งองค์ประกอบเดิมมีกรรมการสภาฯ จำนวน 23 คน รวมผมที่เป็นนายกสภาฯด้วย” “ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งนายจินดา งามสุทธิ อุปนายกสภา มนพ.เป็นรักษาอธิการบดี มนพ. พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสรรหาอธิการบดี โดยมี นพ.วุฒิชัย ธนาพงศธร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภา มนพ.เป็นประธาน และตั้งคณะกรรมการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ลาออก เนื่องจากสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น 5 คน และลาออกเนื่องจากได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นกรรมการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) 1 คน รวม 6 คน โดยมีนายสุนทร บุญญาธิการ รองประธาน กกอ.เป็นประธาน” “ยังมีการตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้แทนองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ลาออกเนื่องจากหมดวาระ 2 คน โดยมีนายเฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภา มนพ.เป็นประธาน ทั้งนี้ คาดว่าการสรรหาอธิการบดี มนพ.คนใหม่จะเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้ภายใน 3 เดือน หากไม่มีเหตุขัดข้องในกระบวนการสรรหา ส่วนตำแหน่งรองอธิการบดีและคณบดีนั้นจะมีการหารือกันต่อไป” นายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม ตอบด้วยท่าทีแข็งกร้าวเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งว่า “ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น พบว่าเกิดปัญหาจากบุคลากรไม่กี่คน โดยกลุ่มที่มีการชุมนุมยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ในภาพที่ปรากฏเป็นข่าวมีเป็นร้อยคน แต่พอดูแล้วพบว่าเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัยแค่ 14 คน ที่เหลือเป็นบุคคลภายนอก ซึ่งจะมีการตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน มนพ.ก็มาจากคณะศึกษาศาสตร์และคณะพยาบาลศาสตร์” “แต่ผมเห็นว่าตอนนี้มหาวิทยาลัยไม่ได้ล่มสลาย กรรมการสภาฯ ทุกคนยังมีสติ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่ใช่คน nobody เพราะฉะนั้น สิ่งที่สภาฯ ทำอยู่ขณะนี้คือเรากำลังแก้ปัญหาธรรมาภิบาลและคุณภาพการศึกษา" ภาวิช ตอบคำถามนักข่าวเกี่ยวกับข้อเรียกร้องให้ใช้มาตรา 44 แก้ปัญหามหาวิทยาลัยนครพนม เสมือนหนึ่งว่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นของอดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ไม่ใช่ของอาจารย์ และนักศึกษา อีกต่อไป คนที่ถูกไล่ขนาดนี้ แบบนี้ ทำงานด้วยกันยาก !!!!