รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลกขณะนี้นั้น ถือเป็นสถานการณ์ส่งผลกระทบในวงกว้าง อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ไวรัสดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสังคมโลกเพียงใด? บทความพิเศษของเว็บไซต์ นสพ.The Independent ประเทศอังกฤษ เรื่อง "Coronavirus will bankrupt more people than it kills - and that's the real global emergency" น่าจะสะท้อนผลกระทบที่ตามมาได้อย่างชัดเจน
เนื้อหาบทคความได้ระบุว่า การระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ไม่ได้คร่าชีวิตเฉพาะผู้ติดเชื้อส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่จะสร้างหายนภัยอย่างมหาศาลเนื่องจากส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ราวกับโรคระบาดเป็นพายุขนาดมหึมาที่ก่อตัวร่วมกับปัจจัยอื่นๆ อย่างการดิ่งลงเหวของตลาดหลักทรัพย์ สงครามน้ำมันระหว่างซาอุดิอาระเบียกับรัสเซีย และสงครามกลางเมืองในซีเรีย
บทความดังกล่าวซึ่งเขียนโดย โอมาร์ ฮัสซัน (Omar Hassan) ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและผู้ร่วมก่อตั้ง UK : MENA Hub องค์กรวิเคราะห์และส่งเสริมด้านเศรษฐกิจและการลงทุนที่มีฐานอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เปรียบเทียบว่าความทุกข์ของมนุษยชาติมาในรูปของการเจ็บป่วยและความตาย แต่มันยังอาจรวมถึงความเจ็บปวดที่ผู้คนจะไม่สามารถชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ และสูญเสียบ้านไปด้วย (Human suffering can come in the form of illness and death. But it can also be experienced as not being able to pay the bills or losing your home)
นี่คือ การคาดการณ์ถึงสถานการณ์ที่น่าจะเกิดขึ้นอันมีผลกระทบมาจากการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ซึ่งก็ดูแล้วก็คงต้องยอมรับว่าน่าจะเกิดขึ้นจริง โดยสภาพปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้าทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง หรือแม้แต่โรคระบาด ล้วนส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนทั่วโลก รวมถึงคนไทยอย่างไม่ต้องสงสัย แล้ว “คนไทย” จะฝ่าฟันปัญหาได้อย่างไร? เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน กรณี “5 ปัจจัย” ที่ทำให้คนไทยอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,164 คน สรุปผลได้ ดังนี้
“5 ปัจจัย” ที่ทำให้คนไทยอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง คืออะไร? พบว่า “คำตอบ” ที่ “ประชาชน” ตอบมากที่สุด ร้อยละ 55.50 คือ กำลังใจจากคนในครอบครัว สาเหตุ ครอบครัวเป็นรากฐานสำคัญ ความรักความเข้าใจเป็นกำลังใจที่ดี เป็นแรงผลักดันให้ต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ ได้ คนในครอบครัวพร้อมรับฟัง ช่วยเหลือ และให้อภัยได้เสมอ ต้องการให้พ่อ/แม่ ลูกสุขสบาย มีความเป็นอยู่ที่ดี ฯลฯ
รองลงมา ได้แก่ ตัวเราเอง ร้อยละ 48.97 สาเหตุ ในปัจจุบันไม่สามารถพึ่งใครได้นอกจากตัวเอง ต้องอดทน ยอมรับ ปรับตัว พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ทำจิตใจให้เบิกบาน จะสามารถต่อสู้กับทุกปัญหาได้ ฯลฯ
มีเงินใช้ ร้อยละ 39.69 สาเหตุ เงินเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นปัจจัยสำคัญ ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในชีวิต แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ การไม่มีเงิน เป็นหนี้ ทำให้เป็นทุกข์ ไม่มีความสุข เครียด ฯลฯ
การมีเพื่อนที่ดี มีที่ปรึกษา ร้อยละ 22.85 สาเหตุ เพื่อนช่วยเป็นกำลังใจ คอยให้คำแนะนำ เป็นที่ปรึกษา ช่วยดึงสติ ทำให้จิตใจเข้มแข็ง มีน้ำใจ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทำให้ต่อสู้กับปัญหาต่อไปได้ ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ฯลฯ
และศาสนา หลักธรรมคำสอน ร้อยละ 21.99 สาเหตุ ศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ หลักธรรมคำสอนช่วยให้มีสติในการแก้ปัญหา ช่วยให้ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ไม่หลงผิด ดำเนินชีวิตด้วยความพอเพียง บริหารจัดการการเงินให้ดี ประหยัด อดออม ไม่ฟุ่มเฟือย ฯลฯ
ทั้งหมดนี้ “ปัจจัยที่ทำให้คนไทยอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง คืออะไร?” ซึ่งก็คงต้องยอมรับว่า การที่จะฝ่าฟันอุปสรรคครั้งนี้ไปได้นั้น คงจำเป็นต้องหวังพึ่งตนเองก่อนในลำดับแรก และเรียนรู้วิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยการหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล เหนื่อยหอบ เจ็บคอ หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ
ระมัดระวังการสัมผัสพื้นผิวที่ไม่สะอาด และอาจมีเชื้อโรคเกาะอยู่ รวมถึงสิ่งที่มีคนจับบ่อยครั้ง เช่น ที่จับบน BTS, MRT, Airport Link ที่เปิด-ปิดประตูในรถ กลอนประตูต่าง ๆ ก๊อกน้ำ ราวบันได ฯลฯ เมื่อจับแล้วอย่าเอามือสัมผัสหน้า และข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ กระเป๋า ฯลฯ
ล้างมือให้สม่ำเสมอด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลอย่างน้อย 20 วินาที ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 70% (ไม่ผสมน้ำ) งดจับตา จมูก ปากขณะที่ไม่ได้ล้างมือ หลีกเลี่ยงการใกล้ชิด สัมผัสสัตว์ต่าง ๆ โดยที่ไม่มีการป้องกัน รับประทานอาหารสุก สะอาด ใช้ช้อนตนเอง ไม่ทานอาหารที่ทำจากสัตว์หายาก
หากทุกคนในสังคมเรียนรู้วิธีป้องกัน มีความรับผิดชอบต่อตนเอง “ตื่นตัว แต่ไม่ตื่นตูม” เชื่อว่าประเทศไทยน่าจะสามารถฝ่าฟันวิกฤติปัญหาไวรัสโควิด-19 ได้อย่างแน่นอน...
ส่วนรัฐบาลนั้น ขอแค่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน มีอุปกรณ์ที่ต้องใช้ป้องกันเบื้องต้นสำหรับประชาชน ทั้งหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ หรือเครื่องมือรักษาความปลอดภัยพื้นฐานอื่นๆ ให้มีความเพียงพอ ตลอดจนเตรียมมาตรการรับมือเร่งด่วนฉุกเฉิน แผนหลัก แผนสำรองในยามวิกฤติไว้ให้พร้อม...
เพียงแค่ดำเนินการสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้ได้ ก็น่าจะเรียกได้ว่าทำหน้าที่ได้ตาม “ความคาดหวัง” แล้ว..!! ส่วนเรื่องปัญหาเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ณ วันนี้ ไม่กล้าคิด จริงจริง!!
เอาเป็นว่าให้ผ่านปัญหาไวรัสโควิด-19 เรื่องอื่นค่อยว่ากันก็แล้วกัน…!!