หากฟังจากสุ้มเสียงของ บรรดา "แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล" ที่ตอบรับสัญญาณที่ว่าด้วย การปรับครม. แล้วจะพบว่า เสียงที่ดังออกมาจากปีก "พรรคประชาธิปัตย์"นั้นกำลังแสดงออกถึงความหวั่นไหว และวิตกไม่น้อย แม้โฆษกพรรคจะออกมาประกาศกร้าวว่า "อย่าแตะ"เก้าอี้รัฐมนตรี "7 ตำแหน่ง"ในโควต้าของประชาธิปัตย์ ก็ตาม ! เพราะอย่าลืมว่า การตัดสินใจ เรื่องการปรับครม. สลับสับเปลี่ยนเก้าอี้รัฐมนตรีในครม.นั้นย่อมอยู่ที่ "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับ "พี่ใหญ่" อย่าง "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ "ผู้จัดการรัฐบาล"เป็นหลัก การที่คนของพรรคประชาธิปัตย์ มีอันต้องหวั่นไหว นั้นย่อมมาจากปัจจัยที่เกิดขึ้น "ซึ่งหน้า" ทั้งสองเรื่อง เรื่องแรก คือการที่ "พรรคภูมิใจไทย" 1 ในพรรคร่วมรัฐบาล บัดนี้มีเสียงส.ส.ในมือเพิ่มทะยานแซงหน้าไปเพียงข้ามคืน จากเดิมพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์มีส.ส.ในมือ52เสียง แต่วันนี้ภูมิใจไทยมีส.ส.ที่ย้ายจากพรรคอนาคตใหม่ เข้ามาเติม ทำให้ภูมิใจไทยมีทั้งสิ้น 61 ที่นั่ง กลายเป็นพรรคอันดับสอง ในพรรคร่วมรัฐบาล และประการที่ 2 ก่อนนาทีโหวตลงคะแนนไว้วางใจ "นายกรัฐมนตรี"และ "5รัฐมนตรี" เมื่อวันศุกร์ที่ 28 ก.พ.ปรากฎว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 17คน ได้พร้อมใจกันแถลงข่าวประกาศจุดยืน "ไม่ไว้วางใจ" รัฐมนตรีคนดัง อย่าง "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ ถือว่าเป็นการแสดงออกอย่างชัดเจน และยังเป็นการตั้งใจส่งสัญญาณ ก่อนถึงนาทีโหวตลงมติด้วยซ้ำ ! หมายความว่า ในบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลยามนี้ พรรคประชาธิปัตย์ นอกจากจะถูกจับตา โดนตั้งคำถามถึง "กติกามารยาท" ในการอยู่ร่วมรัฐบาลแล้ว ยังถูกตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ความไม่พอใจระหว่าง "บิ๊ก" ในรัฐบาล กับปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งก่อนหน้านี้จนถึงวันลงมติไว้วางใจรัฐบาลนั้น จะถูกนำมา รวบยอดแล้ว "เช็คบิล" ด้วยการยึดเก้าอี้รัฐมนตรีในรอบนี้ด้วยเลยหรือไม่ ? ไม่เพียงแต่เก้าอี้รัฐมนตรีในโควต้าของพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นที่ถูกจับตา ทว่าก่อนหน้านี้ตั้งแต่ก่อนวันลงมติ ปรากฎว่ากระแสข่าวลือ ว่า "วิษณุ เครืองาม" อาจจะลาออกจากตำแหน่ง "รองนายกฯ"ด้วยเช่นกัน จนล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมายืนยันผ่านสื่อแล้วว่า ไม่มีเรื่องดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าแม้จะมีการปรับครม.รอบหน้า ตนก็ยังอยู่ ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ถือจบลงไปแล้ว ตามกระบวนการของสภาฯ " ไม่ทราบเรื่อง และไม่เคยได้ยิน เรารู้อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต้องถามนายกฯคนเดียว" (2มีค.63) ทั้งนี้ยังมีรายของ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รมช.เกษตรฯ เองที่ได้รับคะแนนโหวตไว้วางในน้อยที่สุดในจำนวนรัฐมนตรีทั้ง 6 คน อีกทั้งยังมีแรงกดดันจาก "17 ส.ส."พรรคประชาธิปัตย์ที่แถลงข่าวจี้ให้นายกฯทบทวนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาหลังจบศึกซักฟอก แต่ดูเหมือนว่า ร.อ.ธรรมนัส เองก็ไม่ยอมที่จะเป็นฝ่ายถูกกดดันหรือ เล่นบทนิ่ง อยู่ฝ่ายเดียวเช่นกัน ทางหนึ่งจึงเลือกสวนหมัดกลับด้วยการ "ฟ้องดำเนินคดี" กับผู้ที่กล่าวหาตนเองในเรื่องเดิม ทั้งกรณีที่โจมตีว่าเข้าไปเกี่ยวพันกับคดียาเสพติด และปัญหาวุฒิการศึกษา รวมทั้งยังมีรายงานด้วยว่า ร.อ.ธรรมนัส ไม่ยอมถูกปรับ ครม.ง่ายๆเอาเสียด้วย !