สองวันผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่จับ “นายกรัฐมนตรี” กับอีก “5 รัฐมนตรี” ขึ้นซักฟอกกลางสภาผู้แทนราษฎร เพื่อไล่เรียง ลำดับทุกความผิดพลาด ทุกความล้มเหลว ก่อนที่จะมาสรุปขมวดปมสุดท้ายว่าเพราะเหตุใด “พรรคฝ่ายค้าน” จึงไม่เห็นชอบที่จะให้รัฐบาลชุดนี้นั่งบริหารประเทศได้อีกต่อไป ! แต่ดูเหมือนว่า ตลอดช่วงสองวันที่ผ่านมา ในปีกของพรรคฝ่ายค้านยังไม่สามารถ “ชกเข้าเป้า” ทำแต้มต่อนำไปก่อนได้แล้ว ยังกลายเป็นว่า ต้องกลับมาทบทวนว่า อะไรคือ จุดอ่อน อะไรคือช่องโหว่ของ “ยุทธการอรุณรุ่ง” จนทำให้วิปทั้งสองฝ่ายต้องหาทางเจรจากันใหม่ หลังจากที่ “ฝ่ายรัฐบาล” โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ ที่เปิด “ยุทธการดับสุริยา” แก้เกมย้อนศร ด้วยการส่งรัฐมนตรี แทบทุกคน ทุกกระทรวงที่แม้ไม่มีชื่ออยู่ในญัตติถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต่างพากันลุกขึ้นตอบโต้ ชี้แจงส.ส.ฝ่ายค้าน กันตลอดทั้งวัน สำหรับไฮไลต์ที่เกิดขึ้นในระหว่างที่ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านกำลังกรำศึกกันอย่างหน้าดำคร่ำเครียด กลับกลายเป็นความเคลื่อนไหวที่ฟาก"พรรคภูมิใจไทย"ของ “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่บัดนี้กลายเป็นพรรคการเมืองที่ “เนื้อหอม” เมื่อล่าสุด เพิ่งรับ “9ส.ส.” จากอดีตพรรคอนาคตใหม่ เข้าสังกัดเป็นสมาชิกพรรคเพิ่มไปเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้เวลานี้พรรคภูมิใจไทย มีส.ส.รวมทั้งสิ้น 61 คนจากเดิมมีอยู่ 52 ส.ส. ทำให้พรรคภูมิใจไทย ก้าวขึ้นเป็น พรรคร่วมรัฐบาลอันดับที่สอง แซงหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ตกอันดับลงไปทันที ! อย่างไรก็ดี การย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทย ของ “9 ส.ส.” จากอดีตพรรคอนาคตใหม่ครั้งนี้ แท้จริงแล้วแทบไม่มีอะไรที่เกินไปจากความคาดหมายของกูรูการเมือง มาก่อนหน้านี้ เพราะนี่คือช่องทางที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด ในการย้ายเข้าสังกัดพรรคใหม่ เพราะพรรคภูมิใจไทย ยังมีที่ว่างมากพอสำหรับทุกคน ทุกกลุ่ม และง่ายต่อการเจรจา ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ นั้นแม้จะเป็น พรรคใหญ่ พรรคแกนนำรัฐบาล หากแต่กลับเต็มไปด้วยการแย่งชิงอำนาจ ไปจนถึง "เก้าอี้รัฐมนตรี"กันเองระหว่าง กลุ่มก๊วนการเมือง ในพรรค การไหลของส.ส.จากพรรคฝ่ายค้าน ฝั่งตรงข้ามรัฐบาลเข้าสู่พรรคภูมิใจไทยนั้น แน่นอนว่ายังไม่จบลงแค่ที่ “9 ส.ส.”ของอดีตพรรคอนาคตใหม่ ครั้งล่าสุดนี้เท่านั้น เพราะมีรายงานว่าด้วยเหตุที่พรรคภูมิใจไทย นั้นมีสไตล์ที่เป็นมิตร กับทุกๆฝ่าย ทุกพรรค แกนนำของพรรคก็เคยทำงานร่วมกับทุกขั้วอำนาจมาก่อน ด้วยเหตุนี้ โอกาสที่ “งูเห่า” จากพรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่จากพรรคฝ่ายค้าน พรรคอื่นๆ จะเลือกพรรคภูมิใจไทย จึงเป็นไปได้สูง !