ตลอดระยะเวลา 4 วัน4คืนจากนี้ไป จะเข้าสู่โหมดการเมืองร้อน ระอุทะลุจุดเดือดกันที่ในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ “6พรรคฝ่ายค้าน”ใช้ “ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ” ขอซักฟอก “6รัฐมนตรี” กันกลางสภาฯ ตรวจสอบถึงการบริหารงาน ไปจนถึงความโปร่งใส ทุกแง่มุม ก่อนปิดประชุมสภาฯ สมัยสามัญครั้งที่ 2 ในวันที่ 28 ก.พ.63
แน่นอนว่า แม้การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เป้าหลักของฝ่ายค้านจะอยู่ที่ตัว “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นหลัก แต่ใช่ว่า อีก “5รัฐมนตรี” จะไม่ต้องเตรียมตัว เพราะนาทีนี้ ใครจะรู้ว่า ฝ่ายค้าน “ซ่อนใบ” ในมือเอาไว้ที่เรื่องใด และหวังถล่มรัฐมนตรีอีก 5 คนกันถ้วนทั่วหรือไม่
ทั้ง “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ- “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพ.ษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย - วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ- ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ และปิดท้ายที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ต่างต้อง “เก็งข้อสอบ” ด้วยกันทั้งสิ้น เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ คือ “โอกาส” ในการสร้าง “ผลงานชิ้นโบว์แดง” ของ “พรรคฝ่ายค้าน” อีกทั้งยังจะเป็นการพิสูจน์ฝีมือ ของ “กุนซือ” นอกสภาฯทั้ง “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” ในฐานะประธาน ประธานกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย ที่ออกโรงนั่งติวเข้มส.ส.พร้อมทั้งประกาศยุทธการอรุณรุ่ง
หรือ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ที่มาร่วมซักซ้อมให้กับส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ถึงที่สภาฯ ล้วนแล้วแต่เป็นการพิสูจน์ฝีมือ สร้างผลงาน ให้หวังตอกย้ำให้เห็นว่าแม้จะอยู่ “นอกสภาฯ” แต่ก็สามารถ “เขย่า” รัฐบาลได้เช่นกัน
เมื่อมองกลับมาที่ พล.อ.ประยุทธ์ เองซึ่งในศึกซักฟอกเที่ยวนี้ “วิรัช รัตนเศรษฐ” ประธานวิปรัฐบาล ถึงกับออกมา “ส่งซิก” ว่า ขอให้จับตาดู “ลุคส์ใหม่” ว่าอาจมีการสวนกลับ เพราะสังเวียนในสภาฯครั้งนี้ หากบิ๊กตู่ พลิกบทกลับมาเป็นฝ่ายรุกกลับ ฝ่ายค้านได้ จะเท่ากับว่า ในศึกครั้งต่อๆไป พล.อ.ประยุทธ์ จะถือแต้มต่อทันที
ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งโฟกัสสำคัญที่ทุกคนทั้งในและนอกสภาฯ ต่างต้องจับตา นั่นคือการดำเนินบทบาทของสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ที่ยังหลงเหลือชีวิตทางการเมือง ได้ทำหน้าที่ส.ส.ในสภาฯ ต่อ หลังจากที่พรรคถูกคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้ “ยุบ”ไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า “ใคร” จะเล่นเกมไหน
สำหรับ “ทิม พิธา” ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และว่าที่ “ผู้นำคนใหม่” ของชาวอนาคตใหม่ จะต้องสำแดงบทบาทอภิปรายซักฟอกนายกฯและรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ อย่างจะแจ้ง ให้ได้น้ำได้เนื้อมากที่สุด
ทางหนึ่งเพื่อ ปลุกขวัญกำลังใจของชาวอนาคตใหม่ หลังจากที่ขวัญเสียจากการถูกยุบพรรค และอีกทางหนึ่งคือการแสดงศักยภาพในฐานะ “ ว่าที่ผู้นำคนใหม่” ของตัวทิม พิธา เองหลังจากที่เพิ่ง “รับไม้” ต่อจาก “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่บัดนี้ได้กลายเป็น “อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่”ไปแล้ว
นอกจากนี้ส.ส.ของอนาคตใหม่ ที่เหลืออยู่ทั้งสิ้นกว่า 60 คน จะมีใครยกมือ “สนับสนุน” หรือ “โหวตไว้วางใจ” ฝ่ายรัฐบาลจนกลายเป็น “งูเห่า” ที่ปรากฎตัว แจ้งเกิดกันอย่างชัดเจนหรือไม่ ยิ่งในวันนี้ เวลานี้ อนาคตใหม่ตกอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างไปจาก “แพแตก” ด้วยแล้ว ศึกอภิปรายรอบนึ้จึงมีความหมาย และพิสูจน์ “เดิมพัน” ในมือของแต่ละฝ่าย แต่ละคน โดยปริยาย !