รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ดัชนีการเมืองไทย “ดิ่งเหว” ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6..!! แม้จะเป็น “เรื่องที่ไม่อยากพูด...ไม่อยากบอก” แต่ก็คงเป็นเรื่องที่ยอมรับความจริง ตลอดจนเป็นภาพสะท้อนที่แสดงให้อะไรต่อมิอะไรให้เห็นแบบไม่ต้องอธิบายอะไรให้ยืดยาว..!! ผลการสำรวจ “คะแนนนิยมทางการเมืองของรัฐบาล ประยุทธ์ 2” จาก “ดัชนีการเมืองเดือนมกราคม 2563” โดยสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2,429 คน (จำแนกเป็น กรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 597 คน 24.58% ภาคกลาง 505 คน 20.79% ภาคเหนือ 385 คน 15.85% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 641 คน 26.39% และภาคใต้ 301 คน 12.39%) สรุปผลได้ ดังนี้ ประชาชนให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยเดือนมกราคม ที่ระดับคะแนน 3.88 ซึ่งมีคะแนนลดลงกว่า ดัชนีเดือนธันวาคม ที่มีระดับคะแนน 3.89 ดัชนีเดือนพฤศจิกายน ที่มีระดับคะแนน 3.94 ดัชนีเดือนตุลาคม ที่มีระดับคะแนน 4.09 ดัชนีเดือนกันยายน ที่มีระดับคะแนน 4.12 และดัชนีเดือนสิงหาคม ที่มีระดับคะแนน 4.51 เมื่อพิจารณาจากผลดัชนีแล้ว เรียกได้ว่า “สอบตก” ต่อเนื่อง 6 เดือนติดแบบเห็นเห็น..!! ซึ่งก็ไม่อยากให้มองในเชิงลบ แต่อยากให้มองใช่เชิงของโอกาสในการพัฒนา โดยเฉพาะหากพิจารณาอย่างถี่ถ้วน จะพบว่ามี 11 ดัชนีที่มีคะแนน “ดีขึ้น” กว่าเดือนที่ผ่าน ได้แก่ การปฏิบัติงานของฝ่ายค้าน 5.30 คะแนน จริยธรรม /วัฒนธรรมของคนในชาติ 5.30 คะแนน ความสามัคคีของคนในชาติ 4.84 คะแนน ข่าวสารที่เผยแพร่จากสื่อต่างๆให้ประชาชนได้รับรู้ 4.77 คะแนน การจัดการศึกษาสำหรับประชาชน 4.55 คะแนน การดำเนินงานของพรรคการเมืองโดยภาพรวม 4.30 คะแนน การปฏิบัติตนของนักการเมือง /ความสามัคคีของนักการเมือง 3.79 คะแนน การแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพล 3.79 คะแนน การแก้ปัญหาคอรัปชั่น 3.55 คะแนน การแก้ปัญหายาเสพติด 3.47 คะแนน และ ค่าครองชีพ /เงินเดือน /ค่าจ้าง /สวัสดิการ 3.42 คะแนน ขณะที่อีก 14ดัชนีที่คะแนน “แย่ลง” กว่าเดือนที่ผ่าน ได้แก่ การพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า 4.21 คะแนน สภาพของสังคมโดยรวม 4.01 คะแนน ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 3.99 คะแนน ความมั่นคงของประเทศ /การก่อการร้าย 3.88 คะแนน ผลงานของนายกรัฐมนตรี 3.63 คะแนน ผลงานของรัฐบาล 3.56 คะแนน การแก้ปัญหาต่างๆของรัฐบาลในภาพรวม 3.53 คะแนน การมีส่วนร่วมของประชาชนและองค์กรอิสระ 3.41 คะแนน ความเป็นอยู่ของประชาชน 3.40 คะแนน การบริหารประเทศตามนโยบายที่ประกาศไว้ 3.39 คะแนน สภาพเศรษฐกิจโดยภาพรวม 3.22 คะแนน การแก้ปัญหาการว่างงาน 3.22 คะแนน ราคาสินค้า 3.08 คะแนน และการแก้ปัญหาความยากจน 3.05 คะแนน ผลดัชนีการเมืองที่ปรากฏนั้น หากมองในเชิงลบ อาจเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการขับเคลื่อนประเทศที่ “ไม่โดนใจ” ประชาชน จนทำให้คะแนนดัชนีการเมืองลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่หากมองใช้มิติการของการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยพิจารณาจาก ข้อเสนอแนะทางด้านการเมือง ณ วันนี้ จะพบแนวทางที่ทำให้สถานการณ์การเมืองดีขึ้นในสายตาประชาชน โดยสิ่งที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลทำให้มากที่สุด ร้อยละ 36.92 คือ เร่งแก้ปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 และไวรัสโคโรนา ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน รองลงมา ได้แก่ ปฏิรูปการเมืองไทยให้เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ เป็นประชาธิปไตย ร้อยละ 30.32 การแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อปากท้องที่ดีขึ้น ร้อยละ 25.12 การป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจัง ร้อยละ 19.79 และดูแลเงินเดือน สวัสดิการ สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ อย่างเท่าเทียม ร้อยละ 15.86 ที่กล่าวไปทั้งหมดนี้ คือ ดัชนีการเมืองเดือนมกราคม และข้อเสนอแนะทางด้านการเมือง ซึ่งเป็นสะท้อนสถานการณ์ทางการเมือง และแนวทางการแก้ไขสถานการณ์ทางการเมืองในทัศนะปะชาชน ผลของดัชนีการเมืองไทย อาจจะไม่ตรงใจ ไม่ถูกใจ หรืออาจจะไม่ใช่ดัชนีชี้วัดที่ดีที่สุดในสายตาของใครหลายคน แต่ก็เป็นการสะท้อนภาพความเป็นจริงของการเมืองไทยในทัศนะของประชาชนให้ ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองได้รับรู้ว่า “ประชาชน” เห็นว่าสิ่งใดดี สิ่งใดไม่ดี สิ่งใดควรธำรงไว้ สิ่งใดควรเร่งแก้ไข และเพื่อใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการประเทศต่อไป คงได้แต่หวังว่าผลคะแนนดัชนีการเมืองที่ลดลง 6 เดือนต่อเนื่อง จะไม่ทำให้ “รัฐบาลประยุทธ์” รู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง...รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ แต่จะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความทุ่มเททำหน้าที่บริหารประเทศอย่างเต็มความรู้ความสามารถ...หากคิดว่าในขณะนี้ทำงาน 100% แล้ว ก็ต้องยอมรับว่ายังไม่พอ เพราะสถานการณ์การเมือง ณ วันนี้ จำเป็นต้องทุ่มเทเกิน 100% เท่านั้น ถึงจะแก้ปัญหาประเทศ จนทำงานได้ “โดนใจ” ประชาชนได้... สุดท้ายคงทำได้แค่ให้กำลังใจ “รัฐบาลประยุทธ์” ให้มุ่งทำหน้าที่อย่างเต็มความรู้ความสามารถ ส่วนผลลัพธ์จากการทำงานหนักจะเป็นอย่างไร? เชื่อว่า “ดัชนีการเมืองไทย เดือนกุมภาพันธ์ 2563” น่าจะสะท้อนภาพให้เห็นได้ไม่มากก็น้อย..!!