ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศจีน ส่งผลกระทบต่อประเทศที่มีพึ่งพารายได้จาการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีน แน่นอนว่าประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท. คาดการณ์ว่า ยอดนักท่องเที่ยวตจีนปีนี้จะลดลงไม่น้อยกว่า 1.89 ล้านคน จนถึงประมาณสิ้นเดือนเมษายน 2563 จากปีก่อนที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาในไทยราว 11 ล้านคน เนื่องจากกรุ๊ปทัวร์ได้ถูกห้ามออกนอกประเทศ แต่ถ้าการควบคุมการแพร่ระบาดทำได้เร็ว ผลกระทบก็จะน้อยกว่าคาดการณ์ โดยทางททท.จะเร่งหาตลาดทดแทนในกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย ลาว เมียนมา กัมพูชา ตลาดเอเชีย เช่น อินเดีย เกาหลี และญี่ปุ่น ตลาดยุโรป เช่น รัสเซีย ยูเครน และประเทศอื่นๆ ในยุโรปตะวันออก และตลาดสหรัฐอเมริกา เพิ่มเติม
ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส 2019 โคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ต่อตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในปี 2563 เป็น 2 กรณี กรณีที่ 1 การระบาดของโรคในจีนอยู่ในกรอบระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน จากการที่ทางการจีนออกมาตรการขั้นสูงเพื่อควบคุมสถานการณ์อย่างรวดเร็ว และไม่มีการแพร่ระบาดในไทยและประเทศอื่นๆ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดนักท่องเที่ยวจีนโดยเฉพาะจากเมืองอู่ฮั่น แต่น่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย ทำให้คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในปี 2563 น่าจะมีประมาณ 11.10-11.30 ล้านคน
กรณีที่ 2 การระบาดของโรคในจีนขยายเวลาเป็นประมาณ 1-3 เดือน โดยทางการจีนอาจต้องใช้เวลาควบคุมสถานการณ์นานขึ้น กรณีนี้แม้ไม่พบการระบาดในไทยและประเทศอื่นๆ แต่อาจกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจจีน กำลังซื้อของประชาชนชาวจีน มีผลต่อบรรยากาศและความต้องการในการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีน ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในปี 2563 อาจลดลงเหลือประมาณ 10.94-10.77 ล้านคน หรือหดตัวประมาณ 0.5%-2.0%
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 น่าจะยังส่งผลจำกัดต่อการท่องเที่ยวไทยในปี 2563 โดยยังไม่ยกระดับเท่ากับกรณีการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส เนื่องจากสถานการณ์ครั้งนี้ ทางการจีนมีระบบการจัดการที่รวดเร็ว เทคโนโลยีการแพทย์ก้าวหน้าขึ้น และการสื่อสารที่ทั่วถึงทำให้นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงพื้นที่เสียงซึ่งช่วยลดการแพร่ระบาดของโรค
อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะลดลงอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ในสถานการณ์ที่จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง สิ่งที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหันมาสนใจก็คือ การหามาตรการจูงใจกระตุ้นดึงดูดให้เกิดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในประเทศไทยให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น กระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อชดเชยกับรายได้ที่สูญเสียไปจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง
ดังนั้น เป้าหมายจึงอยู่ที่การจัดการให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยงที่มีคุณภาพและมีกำลังซื้อสูงเข้ามาทดแทนและขยายตลาดออกไปให้มากยิ่งขึ้น ฉะนั้นในวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 อาจเป็นโอกาสของการท่องเที่ยวไทย