การยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยฝ่ายค้านก่อนปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ได้กลายเป็นวาระทางการเมืองที่สร้างแรงกดดันต่อทั้ง “7 พรรคฝ่ายค้าน”ไม่ต่างไปจากฟากรัฐบาล !
เนื่องจากตลอด หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคร่วมรัฐบาลต่างรอลุ้นว่าจะมีชื่อรัฐมนตรี ของพรรคตนเองถูกจับอภิปรายไม่ไว้วางใจ ด้วยหรือไม่ เพราะต้องไม่ลืมว่าการอภิปรายฯรอบนี้ รัฐมนตรีที่ถูกยื่นญัตติอภิปรายฯ จะต้องได้รับเสียงโหวตสนับสนุนจากส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลในสภาฯ ให้คะแนน “ไว้วางใจ” ผ่านการซักฟอก เป็นการต่อวีซ่าให้กับตัวเอง ได้นั่งในครม.ต่อไป
แต่ขณะเดียวกันกลับพบว่า ในปีกของพรรคฝ่ายค้านเอง ต้องเผชิญกับคำถามและกระแสข่าวลือหนาหู ทั้งปมประเด็นที่ว่าด้วย “งูเห่า” ไปจนถึงเรื่องการวิ่ง “ล็อบบี้” เพื่อขอให้พรรคฝ่ายค้าน “เว้นว่าง” ไม่ใส่ชื่อ “บิ๊กเนม” ในคณะรัฐบาล ลงไปในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
และแน่นอนว่ากระแสข่าวดังกล่าวไม่ว่าจะจริงเท็จ หรือไม่ อย่างไร แต่ได้กลายเป็นข่าวดิสเครดิต ลดทอนความแข็งแกร่งของพรรคฝ่ายค้านไปอย่างน่าเสียดาย ว่าการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ครั้งนี้แท้จริงแล้วอาจเป็นเพียงแค่ “พิธีกรรม” เท่านั้น แต่ไม่ได้คิดหวังว่าจะ “ตรวจสอบ” ไปถึงขั้น “ล้มรัฐบาล” ตามที่ได้ประกาศผ่านสื่อเอาไว้
ยิ่งแกนนำพรรคเพื่อไทย ประกาศกร้าวด้วยท่าทีขึงขังมากเท่าใด ยิ่งทำให้ถูกเย้ยเยาะจากรัฐบาลว่าแท้จริงแล้วอาจเป็นแค่ “ราคาคุย” หรือ “ขู่รายวัน” เท่านั้นเอง !
อย่างไรก็ดี มีรายงานข่าว สะพัดว่าในวันนี้ (31 ม.ค.63) ทั้ง 7พรรคการเมืองฝ่ายค้าน มีกำหนดนัดหมายที่จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พร้อมทั้งเปิด “9 ชื่อ” รัฐมนตรีที่ถูกจับขึ้นบัญชีรอชำแหละกันกลางสภาฯ ว่าจะประกอบไปด้วย
1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม 2.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ 3.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย 4.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ 5.ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ 6.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ 7.อุตตม สาวนายน รมว.คลัง 8.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ และ 9.อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข
เมื่อสำรวจตรวจดูรายชื่อรัฐมนตรีทั้ง 9 รายแล้วน่าสนใจว่าที่สุดแล้วการซักฟอกครั้งนี้ ทั้ง “3 ป.” ต่างกอดคอกันโดนถล่มในคราวเดียวกัน
ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ , พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ ไม่มีใครรอดเลยสักราย แม้ก่อนหน้านี้จะมีรายงานว่าข่าวสะพัดมาโดยตลอดว่า “พี่ใหญ่” อย่างบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร จะอยู่รอดปลอดภัย เพียงคนเดียวจนทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นภายในพรรคเพื่อไทย จนเกิดเป็นจุดเดือดปะทุกันมาแล้ว
อย่างไรก็ดีการที่ฝ่ายค้านเลือกที่จะซักฟอก ทั้ง “3ป.” เพื่อเซ่นวาระสำคัญทางการเมืองก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ ต้องถือว่าเป็นการเลือกเป้าโจมตีที่เป็นเสมือน “จุดตาย” ของรัฐบาล อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าพรรคฝ่ายค้าน ไม่มีการล็อบบี้กับฟากรัฐบาล ตามที่มีข่าวลือมาก่อนหน้านี้แต่อย่างใด
การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่จะมีขึ้นในเดือนก.พ.นี้ จะเป็นได้ทั้งโอกาสและ วิกฤติสำหรับฝ่ายค้านและรัฐบาล ไม่ต่างกันอยู่ที่ว่า ฝ่ายใดจะบริหารโอกาสให้ออกมาในรูปไหน ! ?