ทวี สุรฤทธิกุล อิเหนาเมาหมัดเพราะเจอเข้ากับหนุมานคลุกฝุ่น น่าสงสารพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องมาเจอกับปัญหาปวดหัวทั้งในรัฐบาลและในรัฐสภา ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเจ้าของฉายา “อิเหนาเมาหมัด” ทำตัวเองแท้ๆ คือไม่ได้ใช้ภาวะผู้นำเข้าแก้ไขปัญหา แต่กลับหลีกหนีปัญหาแล้วปล่อยให้คนที่ก่อปัญหาเหล่านั้นแก้ไขปัญหากันไปเอง ผู้เขียนได้เขียนเตือนพลเอกประยุทธ์ไปแล้วสองสัปดาห์ติดๆ กัน คือเตือนว่าอย่าได้ใช้ “เปรมโมเดล” ด้วยการทำตัวอยู่เหนือปัญหา จนกระทั่งเกิดปรากฏการณ์ “เบื่อป๋า” เช่นเดียวกันที่สังคมไทยกำลังเกิดปรากฏการณ์ “เบื่อลุง” อยู่ในเวลานี้ ตัวเองเป็นหัวหน้ารัฐบาลยิ่งจะต้องเข้าแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และในหัวหน้าของพรรคร่วมรัฐบาลก็ยิ่งจะต้องเข้าแก้ไขปัญหาอย่างทุ่มเท พลเอกประยุทธ์ อาจจะไม่รู้(จริงๆ)ว่า ประเทศไทยปกครองในระบบรัฐสภา ผู้เขียนจึงต้องขอ “อบรม” ท่านสักหน่อย ดังนี้ ประการแรก รัฐสภาคือผู้ใช้อำนาจอธิปไตยแทนปวงชนชาวไทย ซึ่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 114 ได้เขียนไว้ว่า ทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรนั้นคือ “ผู้แทนปวงชนชาวไทย” นั่นก็คือที่รวมแห่งอำนาจรัฐ เพราะอำนาจอธิปไตยนั้นเป็นของปวงชนชาวไทย การให้ความสำคัญต่อรัฐสภาก็คือการให้ความสำคัญกับเจ้าของอำนาจ ซึ่งก็คือประชาชนทั้งประเทศนั่นเอง ประการต่อมา นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบต่อสภา เริ่มจากการที่บุคคลใดจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ก็ต้องได้รับการแต่งตั้งจากรัฐสภา และเมื่อจะปฏิบัติงานก็ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมตรวจสอบของรัฐสภา นายกรัฐมนตรีไม่ได้ “ยิ่งใหญ่เหนือสภา” เพราะนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ผู้นำเหล่าทัพ ที่คนทั้งกองทัพต้องให้ความเคารพยำเกรง แต่เป็นผู้นำของปวงชนชาวไทยผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ที่ให้อำนาจและมอบหมายบทบาทหน้าที่ให้นายกรัฐมนตรีนั้นไปทำ นายกรัฐมนตรีเสียอีกที่ต้องเคารพนบนอบต่อประชาชน ด้วยการเคารพต่อสมาชิกรัฐสภา นายกรัฐมนตรีเสียอีกที่ต้องทำตามที่ประชาชนต้องการ ด้วยการยอมตัวอยู่ภายใต้การตรวจสอบควบคุมโดยสภานั้นอย่างเคร่งครัด อีกประการหนึ่ง นายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งบริหาร คือเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร เหมือนกับเป็น CEO ของประเทศ โดยกระบวนการทางการบริหารนั้น CEO ก็จะถูกแต่งตั้งจากคณะกรรมการบริหาร ซึ่งในทางการเมืองก็คือรัฐสภา นายกรัฐมนตรีจึงต้องรับผิดชอบต่อสภา ถูกกำกับควบคุมโดยสภา ทั้งนี้ CEO ที่เป็นมืออาชีพจะต้องทุ่มเทและเอาใจใส่ในการงานที่ต้องรับผิดชอบ จะต้องรายงานต่อสภาอย่างสม่ำเสมอ และจะต้องปรับปรุงแก้ไขการงานตามที่สภาแนะนำตลอดเวลา ถ้าในรูปแบบบริษัท CEO ต้องคำนึงอยู่ทุกเมื่อว่า “ลูกค้าคือพระเจ้า” แต่ถ้าเป็นรูปแบบรัฐสภา นายกรัฐมนตรีก็ต้องท่องให้จำติดใจว่า “ประชาชนคือพระเจ้า” ดังนั้นนายกรัฐมนตรีจะละเว้นความรับผิดชอบต่อสภาอันเป็นตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศนั้นไม่ได้ ในมุมมองทางด้านวิชาการรัฐศาสตร์ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังมีความบกพร่องในความรับผิดชอบต่อประชาชนนั้นอยู่มาก ซึ่งสามารถอธิบายให้เห็นภาพได้ต่อเนื่องกัน ดังนี้ เริ่มต้น พลเอกประยุทธ์ปฏิเสธว่า ท่านไม่ใช่นักการเมือง ไม่เล่นการเมือง แต่มาทำงานการเมือง และเสียสละเพื่อประเทศชาติ ซึ่งความจริงท่านคือนักการเมือง โดยมีตำแหน่งสูงสุดในทางการบริหาร และตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็คือตำแหน่งทางการเมือง ตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายต่างๆ ก็ระบุไว้ เมื่อท่านไม่ยอมรับว่าท่านเป็นนักการเมือง ท่านก็เลยแสดงบทบาทว่าไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับอะไรๆ ที่เป็นเรื่องของนักการเมือง เริ่มตั้งแต่ไม่รับเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่ยอมให้พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี และตลอดเวลาท่านก็วางตัวไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองใดๆ แต่ก็เดือดร้อนมากเวลาที่มีนักการเมืองสร้างความเดือดร้อนให้ท่าน และมักจะรู้สึกยินดีหากมีนักการเมืองออกมาช่วยเหลือหรือปกป้องท่าน จนกระทั่งท่านได้รับฉายาจากสื่อว่า “อิเหนาเมาหมัด” เพราะเคยว่านักการเมืองทำไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ แต่พอท่านมายุ่งเกี่ยวกับนักการเมืองเข้า หลายๆ อย่างท่านก็ทำอย่างที่นักการเมืองเขาทำกันนั่นแหละ ขณะนี้สภาอยู่ในสภาพที่เรียกว่า “หนุมานคลุกฝุ่น” คือเต็มไปด้วยคนอวดเก่งอวดกล้า สร้างความขัดแย้งปั่นป่วนวุ่นวาย ซึ่งก็เพราะอะไรเล่า ถ้าไม่ใช่ “ความไม่แยแส” ของผู้นำประเทศ ผู้เป็นทั้งหัวหน้ารัฐบาล ผู้เป็นใหญ่ในพรรคการเมืองฝ่ายเสียงข้างมาก และเคยเป็น “อธิปัตย์” ครองอำนาจสูงสุดในรัฐมาตั้งแต่ครั้งที่ทำรัฐประหาร เพียงแต่ว่าขณะนี้ท่าน “ขาดภาวะผู้นำ” ซึ่งก็คือ การแสดงตัวตนให้คนอื่นเห็นอย่างชัดเจนว่า ตนเองเป็นหัวหน้า เป็นผู้ชี้นำและอำนวยการในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งองค์ประกอบของความเป็นผู้นำในตำราทางด้านการบริหารก็คือ “ความรับผิดชอบ ความกล้าหาญ การตัดสินใจ ความยุติธรรม ความเฉลียวฉลาด และความเอาใจใส่” ดังนั้นสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ควรจะทำในเวลานี้ก็คือ “ความเอาใจใส่” หมายถึง การให้ความสำคัญกับผู้คน ซึ่งในทางการเมืองก็คือการให้ความสำคัญกับประชาชน ตอนนี้ปัญหาร้ายแรงอย่างหนึ่งที่ทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายมากๆ ก็คือ ความวุ่นวายในสภา ที่สมาชิกรัฐสภาโดยเฉพาะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกำลังแสดงบทบาทกันอย่างเละเทะเน่าเหม็น ทั้งนี้ท่านก็อย่าลืมว่า เหตุผลหนึ่งในการยึดอำนาจของท่านเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ก็คือความเละเทะของระบอบรัฐสภานี่เอง วิธีแก้ปัญหาในเบื้องต้นก็ไม่ยาก เพียงแต่ท่านแสดงภาวะผู้นำ “ตวาด” ออกไปสักหน่อยไปยังคนที่สร้างความวุ่นวายเหล่านั้น จากนั้นท่านก็ออกรับที่จะเป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ปัญหาในส่วนที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงที่มีรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลของท่านเข้าไปเกี่ยวข้อง ท่านก็ต้องเข้าปรามด้วยเช่นกัน มองภาพการเมืองไทยขณะนี้แล้วก็ทำให้นึกถึงโคลงโลกนิติบทหนึ่งที่ว่า “ปลาร้าพันห่อด้วยใบคา ใบก็เหม็นคาวปลาคละคลุ้ง” บางทีพลเอกประยุทธ์อาจจะอยู่ในภาวะเช่นนั้น แต่ถ้าไม่แก้ปัญหาใดๆ ด้วยการ “โน้มตัว” ลงไปจัดการเสียบ้าง นานวันอาจจะต้องแก้โคลงนี้เป็น “ห่อปลาร้านานนานไปใบคาเน่า ฤาเพราะเจ้าพวกเดียวกันนั้นแหละหนา” บางทีใบคาอาจจะกลายพันธุ์เป็นหนอนบางชนิดไปแล้วก็ได้