ดูเหมือนว่าเรื่องราว ทำท่าว่าอาจจะบานปลาย กลายเป็น “น้ำผึ้งหยดเดียว” สร้างความวุ่นวาย ปลุกความขัดแย้งให้เกิดขึ้นภายใน “พรรคร่วมรัฐบาล” ไปโดยปริยาย เมื่อเกิดกรณีมีส.ส.เสียบบัตรแทนกัน ผุดขึ้นมาสร้างความฮือฮา มิหนำซ้ำยังกลายเป็นประเด็นที่ถูกเปิดขึ้นโดย คนของพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้ข้อมูลกับสังคม ว่ามีส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ด้วยกัน2ราย ได้กดบัตรลงคะแนนในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทั้งที่ตัวเองไม่อยู่ในสถานที่ การออกมาเคลื่อนไหว โดยคนของพรรคประชาธิปัตย์ อย่าง “นิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ” อดีตส.ส.พัทลุง ออกมาเปิดเผยว่า “ฉลอง เทอดวีระพงศ์” ส.ส.พัทลุง เขต 2 พรรคภูมิใจไทย ให้คนอื่นเสียบบัตรแทน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 11 ม.ค.63 ถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ โดยปรากฎตามหลักฐานที่นิพิฎฐ์ นำมาระบุถึงนั้น คือวัน และเวลา เดียวกันกับที่ฉลอง กำลังทำหน้าที่เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ และยังได้ไปเปิดงานวันเด็กแห่งชาติที่ อบต.ชะมวง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง นอกจากฉลอง แล้วนิพิฎฐ์ ยังเปิดแผลพรรคภูมิใจไทย ต่อด้วยว่า ในพฤติการณ์ลักษณะเดียวกันนั้นยังมี “นาที รัชกิจประการ” ส.ส.ของพรรค ไม่ได้อยู่ในที่ประชุมสภาฯ เมื่อวันประชุมสภาฯโหวตผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2563 เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ด้วยเช่นกัน ล่าสุดมีการปล่อยคลิปวันประชุมสภาฯโหวตผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2563 เมื่อวันที่ 10 ม.ค. โดยพบว่า มี “ส.ส.หญิง” ของพรรคพลังประชารัฐ ได้เสียบบัตรแทนกันอีก หมายความว่า ปัญหาการเสียบบัตรแทนกันนั้นเกิดขึ้นกับ ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยและคนของพรรคพลังประชารัฐ โดยมีตัวละครสำคัญ คือนิพิฎฐ์ ออกมาเปิดเผยข้อมูลต่อสังคม สิ่งที่เกิดขึ้นตามมา นอกเหนือไปจาก “กระแสกดดัน” จากสังคมที่พากันตั้งคำถาม ถึงความโปร่งใส ความถูกต้องของส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาล จนทำให้ “บิ๊ก” ของพรรคภูมิใจไทยเรียกประชุม ส.ส. เพื่อออกแรงปราม พร้อมทั้งคาดโทษไม่ให้เกิดเรื่องซ้ำขึ้นอีก ขณะเดียวกันทางฟาก พรรคพลังประชารัฐ มี “วิรัช รัตนเศรษฐ” ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แถลงว่า ส.ส.รัฐบาล 90 คนร่วมกันลงชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสมาชิกรัฐสภา ขอให้ประธานรัฐสภาฯส่ง “ศาลรัฐธรรมนูญ” ให้วินิจฉัยกระบวนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ? เพราะไม่เช่นนั้น “ปัญหาใหญ่” อาจจะตามมา จนทำให้สิ่งที่ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รวมทั้ง “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กังวลว่าปัญหาการเสียบบัตรแทนกันของส.ส.ในซีกรัฐบาล อาจทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ที่เพิ่งผ่านสภาและวุฒิสภา ล่าช้าไปอีก 2-3 เดือน หมายความว่างบประมาณประจำปี 2563 กว่าที่จะออกมาใช้ได้ จะไปตกอยู่ราวเดือน พ.ค.-มิ.ย. และยังอาจกระทบต่องบลงทุน หรือหากในกรณีที่รุนแรงกว่านั้น คือโอกาสที่ร่างพ.ร.บ.งบฯ 2563 จะกลายเป็น “โมฆะ” ตามที่นิพิฎฐ์ และฝ่ายค้าน เปิดปมเอาไว้ตั้งแต่แรก ด้วยเหตุนี้ วิรัช ในฐานะประธานวิปรัฐบาล จึงต้องเดินหน้ากระบวนการตามกฎหมายด้วยการเข้าชื่อ “90 ส.ส.” แล้วยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย ออกมา ปัญหาระหว่าง พรรคร่วมรัฐบาลกำลังตั้งเค้าเช่นนี้ น่าสนใจว่า หากภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง จนมีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทางใด ทางหนึ่ง แต่ทว่าลึกๆแล้ว ใครจะการันตีได้ว่า รอยร้าวลึกๆภายในพรรคร่วมรัฐบาล จะไม่สะสม ตกตะกอน อีกวาระหนึ่ง !