ศึกซักฟอกที่กำลังจะระเบิดขึ้นในสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร รอบนี้น่าจะเป็น "อาวุธ" ชุดสุดท้ายที่ "พรรคร่วมฝ่ายค้าน" จะใช้จัดการกับ "รัฐบาล" ของ "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะหากผ่านพ้นสมัยประชุมสภาฯ รอบนี้ไปแล้ว ความแข็งแกร่งของรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ จะยิ่งมีมากขึ้น ! ตลอดการประชุมคณะทำงานเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในชื่อ "การประชุมคณะกรรมการกิจการพิเศษ" โดยมีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นประธาน นับเป็นความเคลื่อนไหวที่ดึงความสนใจ จากทุกสายตาว่า งานนี้ รัฐบาลจะต้องรับมือกับ "ขุนพล" นอกสภาฯที่ดาหน้ากันระดมสมองแล้วบัญชาการผ่านไปยัง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่เป็น "เทรนเนอร์" คอยป้อนทั้ง "ข้อมูล"และ "กำหนดเกมการเล่น" ทั้งการส่งสัญญาณว่าฝ่ายค้านจะจับใครขึ้นเขียงเพื่อซักฟอกกลางสภาฯ ทั้งการให้ข้อมูลเปิดประเด็น ว่าเรื่องไหนจะถูกนำมาใช้ อภิปรายฯ รัฐมนตรีคนใดบ้าง แต่ที่เป็นปัญหาใหญ่ จนทำให้เกิดปฏิกริยาภายในพรรคที่รุนแรงจากสมาชิกพรรคด้วยกันเอง ว่า เหตุใดจึงไม่มีชื่อ "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หรือจะมีรายการ "คุณขอมา" ให้เว้นชื่อ บิ๊กป้อม เอาไว้เพียงคนเดียว เพราะต้องไม่ลืมว่าก่อนหน้านี้ก็ไม่มีชื่อ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รมช.เกษตรและสหกรณ์ ถูกชำแหละกลางสภาฯ มาแล้ว จนทำให้เกิดข่าวลือว่ามีการล็อบบี้ ให้เว้นชื่อร.อ.ธรรมนัส ด้วยการประสานผ่านคนในพรรคเพื่อไทย ดังนั้นเมื่อไม่ปรากฎว่า มีชื่อ พล.อ.ประวิตร ติดโผถูกอภิปรายฯ ในรอบนี้ แถมล่าสุด ยังมีข่าวว่า ชื่อชั้นของ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รมว.คมนาคม จากพรรคภูมิใจไทย ก็ยังหล่นหายไปจากลิสต์ จนเกิดข่าวลือว่า ฝ่ายค้านหวังที่จะแลกกับการได้โครงการของกระทรวงคมนาคม มูลค่า 900ล้านบาท งานนี้ทำเอา คนของพรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคหลักที่จะขยับเกมซักฟอกต้องตกเป็น "เป้าโจมตี"เสียเอง ว่าเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะไม่ว่าจะจริงหรือไม่ก็ตาม แต่การที่ทำให้สังคม เกิดคำถามขึ้นมาก่อนวันที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติในช่วงก่อนตรุษจีน สัปดาห์หน้านั้น ต้องถือว่าเป็น ข่าวร้อนที่ "ดิสเครดิต" ของพรรคเพื่อไทยและฝ่ายค้านอย่างแรง ! นาทีนี้ ฝ่ายที่กำลัง "นั่งไม่ติด"กลายเป็นพรรคเพื่อไทย และพรรคอนาคตใหม่ 2พรรคหลัก ที่ออกตัวแรงแข็งขัน แต่ทว่าต่างฝ่ายต่างมีปัญหา อยู่ในที ! พรรคเพื่อไทยมีคณะกรรมการกิจการพิเศษ ทำหน้าที่เป็น "ติวเตอร์นอกสภาฯ" เป็นเหมือนกองกำลัง กองหนุน และกองบัญชาการรบ อยู่ด้านนอก แต่อาจหลงลืมไปว่า บรรดา "ตัวเล่นจริง"ที่ต้องรับมือ สู้ศึกในสภาฯนั้นต่างยังเป็นการส.ส.แถวสอบ แถวสาม ที่ได้ทดลองชิมลาง อภิปรายรัฐบาลกันมาแล้วหลายวาระ หลายคราว แต่ยังไม่อาจทำผลงานเข้าเป้า ขณะที่พรรคอนาคตใหม่เอง ระหว่างที่ตระเตรียมแผนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลไป ในจังหวะเดียวกันก็ยังไม่รู้ว่า อนาคตทางการเมืองของตัวเองจะเป็นอย่างไร จะออกหัวหรือออกก้อย ในวันที่ 21 ม.ค.นี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดีล้มล้างการปกครอง ดังนั้นหากจะให้แกนนำพรรคอนาคตใหม่ ไม่หวั่นไหวไปกับสถานการณ์ของตัวเองที่ต่างต้องรอลุ้นระทึกแล้วมุ่งหน้าชำแหละรัฐบาลไปเพียงด้านเดียว ก็คงจะแปลกเต็มที อย่างไรก็ดี เวลานี้ก่อนที่ฝ่ายค้านและรัฐบาล จะเดินไปถึงวันปะทะกันกลางสภาฯด้วยญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่จะต้องมีขึ้นส่งท้ายก่อนปิดสมัยประชุมรอบนี้ คือการสะท้อนให้เห็นว่าแท้จริงแล้ว การดิสเครดิตด้วย "สงครามข่าว" เปิดปฏิบัติการIO ทำลายคู่ต่อสู้ ต่างหากที่มีผลกระทบไม่น้อย !