แนวรบที่พรรคประชาธิปัตย์ยามนี้ ต้องยอมรับว่าหลากหลายความรู้สึก ถ้าเป็นละครก็ต้องบอกว่ามีทั้งโศกเศร้า เคล้าน้ำตา ผสมปนเปไปกับ “แรงกระเพื่อม” ภายในที่พร้อมจะ “ปะทุ” ขึ้นมาได้ทุกเมื่อ
การลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ของ “กรณ์ จาติกวณิช” เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้กรณ์ ต้องพ้นจากสถานะการเป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ไปโดยปริยาย ได้กลายเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึง “ปัญหาภายใน” ว่ามีจริง และมีแนวโน้มว่าจะลุกลาม บานปลาย ด้วยจะมีอีกสมาชิกพรรคอีกหลายราย เดินตามรอยกรณ์
ทั้ง “อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี” อดีตส.ส.กทม. จนมารายล่าสุด “ฐนโรจน์ โรจนกุลเสฏฐ์” อดีตส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งข้อความเข้าไลน์กลุ่มส.ส.ประชาธิปัตย์ แจ้งว่าขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค และได้ยื่นหนังสือลาออกไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 13ม.ค.ที่ผ่านมา โดยจะขอออกไปตั้งพรรคการเมืองในชื่อ “รัฎฐาธิปัตย์” ซึ่งได้จดทะเบียนตั้งพรรคกับกกต.เมื่อวันที่ 14 ม.ค.
การตัดสินใจลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่เกิดขึ้นด้วยกันถึง 3 รายภายในระยะเวลาไม่กี่วัน ได้กลายเป็น ประเด็นร้อนที่ทำให้ “บิ๊กเนม” ในพรรค ต้องตอบคำถามว่า เกิดอะไรขึ้น “ความขัดแย้ง” ภายในพรรคได้ยืดเยื้อ เรื้อรังจากวันที่มีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ แต่กลับลากยาวมาจนถึงวันนี้ อย่างนั้นหรือ ?
ในความเป็นจริงแล้ว ข่าวการลาออกของกรณ์ นั้นมีมาตั้งแต่ก่อนสิ้นปี 2562 แล้วด้วยซ้ำ เพียงแต่ยังไม่มีการยืนยัน วัน ว. เวลา น.ที่ชัดเจน ว่ากรณ์ จะขยับเมื่อใด ?
สำหรับการตัดสินใจย้ายออกจากพรรคประชาธิปัตย์ที่กรณ์ สังกัดมายาวนานถึง 15 ปีนั้นต้องนับว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่กระทบความรู้สึกของคนในพรรค รวมทั้งกองเชียร์ ของพรรคอย่างแน่นอน แต่เมื่อที่สุดแล้ว “การเปลี่ยนแปลง” เดินทางมาถึงจุดที่ต้องเกิดขึ้น ด้วยความสุกงอมทางการเมือง ที่กลายเป็น “เงื่อนไข” บีบให้ทั้งกรณ์, อรรถวิชช์ และฐนโรจน์ ต้องตัดสินใจอย่างที่เห็น !
จากนี้ไปยังไม่มีใครการันตีได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ เลือดจะหยุดไหลได้หรือไม่ แต่ทั้งนี้ดูเหมือนจะมีแนวโน้มว่าทั้ง3 รายดังกล่าวนี้ จะยังไม่ใช่ “กลุ่มสุดท้าย” ที่เดินออกไปจากพรรค หรือแม้จะยังไม่ออกไปจากพรรค ก็ใช่ว่า “ความขัดแย้ง” ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคราวที่ต่างฝ่ายต่างเปิดศึกเสนอตัว “ชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค” ที่ผ่านมาจะยุติลงไปด้วย
ภาพที่กรณ์ สวมกอด “มาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในระหว่างงานเลี้ยงที่ร้านที -เฮ้าส์ เมื่อค่ำคืนวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งมีช็อตหลั่งน้ำตาออกมา อีกทั้งในงานนี้ยังมี “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร และในฐานะ ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ไปร่วมงานด้วย จะขาดก็แต่ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” ในฐานะหัวหน้าพรรค ซึ่งมีข่าวลือว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้กรณ์ ตัดสินใจทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ มาจากความขัดแย้งกับกลุ่มอำนาจของจุรินทร์ นั่นเอง
แม้จุรินทร์ จะออกมาปฏิเสธแล้วว่า ไม่มีความขัดแย้งใดๆ และการที่มีคนเข้า-ออก ในพรรคก็ถือเป็นเรื่องปกติก็ตามที แต่ไม่มีใครเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรในกอไผ่
ปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์ที่เกิดการแบ่งขั้ว แบ่งฝ่าย ยังขยายผลลุกลามไปกระทบต่อ “สัมพันธภาพ” กับ พรรคร่วมรัฐบาลไปโดยปริยาย เกิดเป็น “ฝ่ายค้าน” ในรัฐบาล เหมือนในเช่นวันนี้ !