แนวรบ “เพื่อไทย” รุ่งริ่ง ก่อนออกศึก !

ความขัดแย้ง “ศึกใน” ของพรรคเพื่อไทย ดูเหมือนจะปะทุขึ้นมาในห้วงเวลาที่ต้องบอกว่า “ผิดคิว” อย่างแรง ! เพราะเวลานี้ พรรคเพื่อไทยอยู่ในฐานะ “ทัพใหญ่” รับหน้าที่ เข็นวาระ “ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ” ด้วยเพราะพรรคการเมืองในปีกฝ่ายค้านอีก “6 พรรค” โดยเฉพาะ “พรรคอนาคตใหม่” พรรคอันดับสอง กำลังอยู่ในสภาพที่ “ติดหล่ม” จากบ่วงคดีความ รวมทั้งยังต้องแบ่งสรรพกำลังลงไปร่วมอีเว้นท์ใหญ่ “วิ่ง ไล่ ลุง” กับกลุ่มแนวร่วมพันธมิตร นอกสภาฯ หมายความว่า แทนที่พรรคเพื่อไทย จะได้ติดอาวุธพร้อมสรรพ ตระเตรียมไพร่พล และข้อมูลสุดเอกคลูซีฟ ใช้เป็น “หมัดเด็ด” หวัง “น็อค” ทั้ง “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและเจ้าของรหัส “สนามไชย 1” ไปจนถึง “รัฐมนตรี” ที่รอเข้าคิวขึ้นเขียงถูกชำแหละกลางสภาฯ เพื่อเป็นการ “โชว์ฝีมือ” ของพรรคเพื่อไทย เมื่อจังหวะ “เข้าทาง” ก็กลับกลายเป็นว่า พรรคเพื่อไทย ยังวุ่นวาย อยู่กับปัญหาความขัดแย้ง ความไม่ลงรอยกันเองระหว่างกลุ่มคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ซึ่งมีข่าวสะพัดอย่างหนัก ว่าเกิดอาการน้อยใจ ร่ำๆจะลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรค โดยเฉพาะตำแหน่ง “ประธานยุทธศาสตร์พรรค” กับกลุ่มอำนาจของ “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย ที่บัดนี้ก้าวขึ้นมาผงาด โดดเด่นเหนือ คุณหญิงสุดารัตน์ อีกทั้ง กลุ่มอำนาจของคุญหญิงสุดารัตน์ ยังถูกกดดันซ้ำเมื่อ ทุกกลุ่มก๊วนในพรรคที่ยืนตรงข้าม ต่างพากัน “จับมือ” รุมถล่มกันในคราวเดียวกัน ยิ่งเมื่อ ร.ต.อ.เฉลิม กลายเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการบัญชาการทัพในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงกลายเป็น “แม่เหล็ก” ที่ดึงดูดให้ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย ต่างพากันเข้าพบชนิดบันไดไม่แห้ง เพราะอย่าลืมว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล คือโอกาสทองสำหรับ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ที่จะได้ลุกขึ้นอภิปรายฯ มีทางได้สร้างผลงาน ฉวยจังหวะถล่มนายกฯและรัฐบาล หากฝีมือเข้าตา “คนที่ต่างประเทศ” จะยิ่งเป็นการสร้างราคา สร้างมูลค่าเพิ่มไปโดยปริยาย อย่างไรก็ดี ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะจบลงอย่างไร ทางไหน คุณหญิงสุดารัตน์ จะลาออกจากพรรคจริงหรือไม่ หรือ สุดท้ายแล้ว จะได้เห็นภาพความสามัคคี จับมือกันระหว่าง คุญหญิงสุดารัตน์ กับ ร.ต.อ.เฉลิม หรือไม่ก็ตาม ย่อมกลายเป็นเรื่องกวนใจและทำให้การจัดทัพ ตระเตรียมไพร่พล ของพรรคเพื่อไทยเองมีอันต้องสะดุด จนกลายเป็นโอกาสทอง สำหรับ “รัฐบาล” ไปอย่างน่าเสียดาย ! ไม่เช่นนั้นแล้ว คงไม่มีคำถามไปยัง “ผู้จัดการรัฐบาล” อย่าง “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น จนบิ๊กป้อม ต้องไล่ให้ถามคุณหญิงสุดารัตน์ เอาเอง เรื่องลาออกจากพรรคเพื่อไทย แล้วเตรียมมาทำงานกับพรรคพลังประชารัฐ “เรื่องนี้ให้ไปถามคุณหญิงสุดารัตน์ ผมไม่ได้ชื่อสุดารัตน์” ความวุ่นวาย ความขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทย หากยังยืดเยื้อ ไม่เลิกราต่อไปเช่นนี้ ที่สุดแล้วจะกลายเป็นการ “เปิดหน้า” ให้ฝ่ายรัฐบาลมองเห็นจุดอ่อน ได้อย่างง่ายดาย !