ดร.วิชัย พยัคฆโส
[email protected]
เริ่มศักราชปีหนู พี่น้องชาวไทยมีความสุขกันถ้วนหน้า แม้ว่าจะถูกปีหมูดุส่งท้ายปีเก่าช่วง วันอันตราย ที่มีมากกว่าทุกปี ทั้งๆที่รัฐบาลพยายามรณรงค์อย่างเข้มข้นก็ยังไม่วาย เสียชีวิต บาดเจ็บจากอุบัติภัยบนท้องถนนกันมากมาย ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวที่ประสบภัยพิบัติทุกคน
ปลายปีที่ผ่านมาค่าเงินบาทแข็งค่าอยู่ระหว่าง 29.92-30 บาท ส่งผลให้มีผู้เสียประโยชน์กันรถ้วนหน้า โดยเฉพาะการส่งออกที่เงินบาทด้อยค่าลงมาแตะ 30 บาทในปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะยังคงแข็งค่าอยู่ต่อไป
อย่างไรก็ดีเกษตรกรที่ผลูกพืชเศรษฐกิจต่างสมหวังไปตามๆกัน โดยเฉพาะปาล์มน้ำมันราคาพุ่งถึง 6 บาท/กก. นอกนั้นได้รับส่วนต่างกันถ้วนหน้า ทำให้เกษตรกรไม่สิ้นหวังเสียทีเดียวกับการทำงานเพียง 4 เดือนของรัฐบาลชุดนี้ ถ้าเกษตรกรไม่ร่วมเดินขบวนด้วย การขับไล่นายกฯคงไม่เกิดผล แม้จะมีโหรมาทำนายทายทักว่าปีหนูปีนี่รัฐบาลจะถูกกัดจนเลือดตกยางออกก็ตาม หวังว่ารัฐบาลลุงตู่คงกัดฟันฝ่าคลื่นลมและมรสุมต่างๆไปได้
โชคดีที่ยังมีงบประมาณ 3.2 ล้านล้าน มาช่วยได้ทันในไตรมาสที่ 2 คงจะพยุงเรือลำนี้ที่โคลงโคลงมาตลอดให้สามารถแล่นต่อไปได้อีกหลายอึดใจ แม้ว่างบลงทุนจะจัดไม่ทันในปีนี้ แต่ยังสามารถลงทุนเบื้องต้นให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ได้ว่า งบประมรณปีนี้มาช่วยไว้ได้
ฟังข่าวแว่วว่ารัฐบาลจะแบ่งกลุ่มประชาชนออกเป็น 5 กลุ่ม เพื่อจัดหามาตรการช่วยเหลือเจือจุนกับเกษตรกร คนยากจน คนชรา SMEs และผู้ใช้แรงงานด้วยมาตาการที่กำลังจะคลอดออกมาเร็วๆนี้ คงมีส่วนช่วยให้รัฐบาลได้คะแนนเสียงแน่นขึ้น แม้ว่าในสภาผู้แทนราษฎรจะมีสมาชิกฝ่ายรัฐบาลเพิ่มขึ้นมาจนไม่ปริ่มน้ำแล้ว ทำให้รัฐบาลเริ่มมีเสถียรภาพเพิ่มขึ้น
เพียงแต่มีรัฐมนตรีบางกระทรวง ยังไม่ค่อยมีผลงานเป็รชิ้นเป็นอันมากนัก เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และบางกระทรวง ที่ยังไม่มีนโยบายชัดเจนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้เห็นและจับต้องได้ หากกระทรวงเหล่านี้เร่งคลอดนโยบายที่สามรถจับต้องได้ออกมาพร้อมๆกัน คงทำให้ผลงานของรัฐบาลเข้าตาประชาชนได้มากขึ้น
โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ อาจจะพลิกฟื้นได้ยาก เพราะถูกสะสมปัญหามาช้านาน ทำให้หลายๆนโยบายเดินทางไปสู่ที่เดิมอีก กว่าจะถอนกลับมาได้คงยากแสนเข็ญ แต่สิ่งที่น่าทำได้ คือ การเพิ่มคุณภาพการศึกษา และคุณภาพชีวิตของครูผู้สอนให้กระเตื้องขึ้น เพราะผลการประเมินคุณภาพระดับชาติ ยังเท่าเดิม ในขณะที่กระทรวง อ.ว. เขาเดินหน้าพัฒนาคนมาช่วยชาติ หากสำเร็จ โอกาสของประเทศไทยเข้าสู่ประเทศที่มีรายได้สูงพอจะมองเห็นได้ แต่หากฐานรองรับไม่ดีพอคงยากอยู่ที่จะพัฒนา
หลายๆหน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการเองยังมีปัญหาแก้ได้ยาก เช่น ที่สำนักงานเลขาธิการสวัสดิการครูหรือคุรุสภาเดิม กับองค์การค้า ที่กำลังจะล่มหรือไม่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข นับวันจะไม่มีศักยภาพในการดูแลสวัสดิการและสวัสดิภาพของครูไปทุกวัน เห็นทีจะต้องปรับปรุงเป็นการใหญ่ โดยเฉพาะผู้นำองค์กร หากยังเป็นข้าราชการมากำกับดูแล จะยิ่งทรุดลงเรื่อยๆ
ปีหนู 2563 หรือ 2020 น่าจะเป็นนิมิตรหมายที่ดีของทุกกระทรวงที่จะเริ่มต้นนโยบายที่เป็นมาตรการในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกๆด้าน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกกระทรวงประสบความสำเร็จกับแนวทางที่นักการเมืองจะช่วยกันผลักดันเพื่อคนไทยมีความสุขอีกปีหนึ่งครับ